“โคทม” แนะ คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลฯ ถอนร่างลงมติแก้รธน.วาระ 3 เชื่อ หนทางไม่ราบรื่น เชียร์แก้ ม.237 และสรรหาองค์กรอิสระ เล็งใช้เวลา 2 เดือน รณรงค์ทำความเข้าใจ ฉีก รธน. ปี 50
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการพรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาแนวทางแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 โดยมีการเชิญ นายโคทม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล นายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ มาร่วมให้ความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โดยในการหารือช่วงหนึ่ง นายโคทมได้เสนอให้ถอนญัตติการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ออกจากสภา เพราะถ้าเดินหน้าต่อ ก็ไม่ใช่หนทางที่ราบเรียบ ฝ่ายตรงข้ามก็จะบอกว่า เป็นการดำเนินการของพรรครัฐบาลฝ่ายเดียว ไม่ใช่ความร่วมมือของทุกฝ่าย จึงควรถอนการลงมติวาระ 3 แล้ว ไปเริ่มตั้งต้นใหม่
ส่วนการทำประชามติ แนะนำให้ศึกษารัฐธรรมนูญ มาตรา 165 อย่างรอบคอบ เพราะหลายฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน และจะนำไปสู่การร้องศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยอีกได้
นายโคทมยังกล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา เช่น มาตรา 237 เรื่องการยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 5 ปี ด้วยการกระทำผิดของคนๆ เดียว และมาตราที่ว่าด้วยกระบวนการสรรหาองค์กรอิสระที่ยังน่ากังวล เนื่องจากมีลักษณะของการคัดเลือกกันเองภายในกลุ่ม ถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่นภายในกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่มีความหลากหลาย
ขณะที่ นายวีรพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าสภาต้องเดินหน้าลงมติการแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 ส่วนจะปล่อยให้ผ่านหรือตกไปก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสภา เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัย
ด้าน นายโภคิน พลกุล ประธานคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลฯ แถลงภายหลังการหารือว่า นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ควรมีการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 มีที่มาจากการรัฐประหาร บางมาตราขัดหลักนิติธรรม เช่น มาตรา 237 ที่เห็นตรงกันว่า ต้องแก้ไข อย่างไรก็ตามยังมีความเป็นห่วงว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ประชาชนส่วนหนึ่งยังไม่เข้าใจเรื่องรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นจึงต้องเริ่มต้นด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการแก้รัฐ ธรรมนูญ โดยให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นวาระของประชาชน ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง คาดว่าจะใช้เวลารณรงค์ประมาณ 2-3 เดือน ส่วนการลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 นั้น ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ถึงอย่างไรก็ต้องมีการลงมติว่า จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
ขณะที่เรื่องการทำประชามติ ส่วนใหญ่เห็นว่า หากจะทำประชามติต้องดำเนินการก่อนที่จะออกเป็นกฎหมายมาบังคับใช้ ทั้งนี้การประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 24 ก.ย. จะเชิญ นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาให้ความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
