ทีมข่าว นปช.
19 สิงหาคม 2555
ในช่วงที่ 2 เรามาพูดเกี่ยวกับประเด็นความคืบหน้าของคดีเกี่ยวกับการไต่สวนชันสูตรพลิกศพคดีความตายที่เกิดขึ้นทั้ง 98 ความตาย ไม่ทราบว่าตอนนี้คดีมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ ?
ก็ 19 คดีนี่ไปเยอะแล้ว แต่ทีนี้มันง่ายตรงอะไร ยกตัวอย่างเช่น ตรงบริเวณที่วันที่ 10 เมษา มีจำนวนหนึ่งอย่างของฮิโรยูกิก็ตรงนั้น เพราะฉะนั้นมันก็จะพ่วงด้วยของวสันต์ ภู่ทองกับทศชัย เมฆงามฟ้า ก็จะเป็น 3 คดี ทีนี้มันจะเป็นพยานที่ใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นเราก็จะเข้าใจว่าส่วนที่เหลือจะเร็ว คือในฝ่ายประชาชนจะเร็วเพราะว่าเสียชีวิตในบริเวณที่ใกล้ ๆ กัน แต่ว่าถ้าของกองทัพตรงนั้นก็ใกล้ ๆ กันนะ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้รังเกียจเลยคุณหามาซิ และจริง ๆ แล้วทนายนปช.ก็ช่วยเป็นทนายให้กับพลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละด้วย แล้วทำไมทหารไม่สนใจล่ะ เพราะว่าอะไร เพราะว่าพลทหารณรงค์ฤทธิ์ก็ถูกทหารนั่นแหละยิง
ถ้ามองแล้วคดีจะดำเนินไปเร็วและพยานหลายคนก็จะเป็นปากเดียวกัน จริง ๆ แล้วถ้าเอาพื้นฐาน 13 ศพแรกคุณจตุพรก็ได้ออกไปพูดตอนอยู่ในรัฐสภาพูดอย่างละเอียดเลย เหมือนอย่างที่วัดปทุมวนาราม 6 ศพ ในนี้ก็บรรยายว่าใครเป็นศพที่ 1 ศพที่ 2 ศพที่ 3 ศพที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 ก็ไปช่วยกันก็เห็นกันอยู่ ก็เชื่อว่าความจริงมันจะออกมาเร็ว เพราะเวลาเขาให้การมันก็ถูกบันทึก หนึ่งเป็นความจริงเหมือนเดิม อันที่สองเป็นที่เปิดเผยคนที่เข้าไปฟัง นักข่าวที่เข้าไปฟังเขาก็ทำบันทึกออกมา แล้วจะโกรธใครก็ในเมื่อเขาพูดความจริงจะโกรธใครได้อย่างไร เพราะว่าเขาไม่ได้เล่นละครด้วยกันนะ ละครชุดที่ว่าพวกล้มเจ้าพวกเผาบ้านเผาเมืองต้องฆ่ามันอย่างต่ำ 500 คน คนอื่นเขาไม่ได้เอาด้วยนะ มีแต่คนชุดหนึ่ง คนในพรรคประชาธิปัตย์ส่วหนึ่ง ในศอฉ.ส่วนหนึ่งที่เห็นด้วยกับละครชุดนี้ เขียนบทละครชุดนี้แล้วก็ไม่ยอมออก ก็คือคุณอภิสิทธิ์ก็เอาเรื่องชายชุดดำออกมาแล้วอ้างเป็นเหตุผลไม่ยอมออก แต่ละครชุดนี้ประชาชนที่ถูกฆ่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก คนที่เห็นเหตุการณ์ สื่อมวลชนเขาไม่เล่นละครชุดนี้กับคุณด้วยนะ พวกคุณเล่นกันเอง คุณหลอกกันเอง แล้วคุณจะมาบังคับว่าคุณต้องเชื่อผมซิเพราะผมต้องดูแลทหาร ตอนเขียนบทละครชุดนี้ไม่ได้เขียนตอนจบว่าตอนจบเป็นอย่างไร เพราะมันไม่ใช่ของจริง แต่ที่ของเรา เราไม่ได้เล่นละครทุกอย่างคือของจริงหมด แล้วคำให้การไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สื่อมวลชนและไม่ว่าจะเป็นภาพต่าง ๆ ก็สอดคล้อง แล้วท่าน ผบ.ทบ. จะบังคับให้คนอื่นเล่นละครแบบเดียวกับท่านไม่ได้ เราไม่เล่นด้วย
เพราะฉะนั้นเราถึงได้บอกว่า ท่านจะมาบอกว่า DSI อย่ามาพูดนะเพราะว่าตอนนั้นเล่นละครชุดเดียวกันอยู่ในศอฉ.เดียวกัน อันนี้ไม่ได้นะ คือถ้าอะไรที่เขียนมันต้องเขียนให้เป็นแบบเดียวกัน แต่ของจริงมันไม่ต้องเขียน พูดไปตามความจริง เพราะฉะนั้นอาจารย์อ่านสิ่งที่พล.อ.ประยุทธตอบผู้สื่อข่าวก็เลยนั่งคิดว่า เอ...เล่นละครนี่มันเขียนได้อย่างไร เมื่อกี้ที่เราพูดก็แสดงว่ามาจากละครก่อน พล็อตละครก่อนว่าหนึ่งพวกนี้มีอาวุธ, มีกองกำลังอาวุธ รอบแรกเลยทหารเสียเกียรติยศตอนที่ไปไทยคม คือถูกณัฐวุฒิยึดปืนแล้วเอาไปคืนให้เขารู้สึกว่ามันเสียเกียรติยศมาก (ไม่มีใครตาย) เอามาถ่ายรูปเสร็จเอาปืนคืนจากนั้นก็สั่งปราบจริงคืนวันที่ 10 เมษา ปฏิบัติการไทยคมดูเหมือนจะเป็นวันที่ 6 หรือ 7 แล้วมาปราบวันที่ 10 ก็ใช้รถถังใช้ของจริง พอมีความตายเกิดขึ้นทั้งฝั่งทหารฝั่งประชาชนซึ่งวันนั้นณัฐวุฒิไม่รู้ตอนกลางคืนว่ามีทหารเสียชีวิตเยอะด้วยซ้ำ ไม่มีใครรู้นึกว่ามีเราตายข้างเดียวเราก็ไม่รู้ว่าเขาตายเพราะอะไร ใครจะไปมีจินตภาพว่ามีการขว้างระเบิดหรือว่ามีการยิ่งด้วยปืนพกหรืออย่างไรจนไม่กล้าเอามาชันสูตร นั่นคือการใช้อาวุธจริง แต่การใช้อาวุธจริงครั้งนั้นในทางยุทธการ (ทางทหาร) ถือว่าแพ้ เพราะทหารเสียไป 1 กองพล บาดเจ็บล้มตายเป็นร้อยร่วม 300 คน ทั้งบาดเจ็บเบา บาดเจ็บหนัก จึงมายกระดับตั้งหลักใหม่จากเดือนเมษามา 1 เดือน สคริปที่เขียนก็คือพวกเสื้อแดงนี้มีกองกำลังไม่ต่ำกว่า 500 คน เพราะฉะนั้นสมควรฆ่าได้ นี่เราต้องคาดเอานะ งั้นแปลว่าคิดแบบพวกจารีตนิยมนั่นก็คือว่ามองชัยชัยชนะเป็นชัยชนะการทหาร ไม่ได้คิดเรื่องการเมือง ไม่มีความคิดใช้การเมืองเลย ทหารที่เขียนในเสนาธิปัตย์เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่เคยใช้การเมืองเพื่อยุติ ไม่ได้มีการใช้เจรจาเพื่อยุติแต่ใช้การทหารอย่างเดียว แปลว่าต้องชนะ
อย่างนี้เป็นไปได้มั้ยครับว่าจุดจบของละครเรื่องนี้อาจจะมีการปฏิวัติซ้ำมาอีกรอบหนึ่ง ?
ถ้ากลับไปดูเหตุการณ์เมื่อ 6 ตุลา มีการฆ่าทำร้ายนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอย่างเหี้ยมโหด อย่างป่าเถื่อน มีกล้องถ่ายด้วยนะที่นักศึกษาผู้หญิงคลานอยู่ในสนามหรือใช้ผ้าพันคอลูกเสือชาวบ้านลากคอแล้วก็ใช้เก้าอี้ฟาด ภาพนั้นได้รางวัลพูลิเชอร์เลยคนตายแล้วพวกนี้เป็นนิสิตจุฬาอีกคนธรรมศาสตร์ที่ถูกลากคอจากนั้นก็จับคนไปเข้าคุกพล็อตคล้าย ๆ กันนะ สุธรรม แสงประทุม กลุ่มอ.ธงชัย วินิจจะกุล, สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลอยู่ในคุกตั้งหลายเดือนแล้วก็ตีตรวนมาขึ้นศาล ตอนนั้นศาลเร็วเหมือนกัน ของเรา 9 เดือนกว่านี่คนละอย่างกันเลย คนไปฟังกันแน่นศาลเลย พอคดีดำเนินไป...ดำเนินไป...พอเริ่มเปิดขึ้นมาเท่านั้นแหละ..มาแล้ว...รัฐประหาร อาจารย์ไม่ใช้คำว่าปฏิวัติ
พอมีการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ศาล แล้วมีการสืบพยาน เรื่องจะมาถึงตัวเองแล้วหรืออย่างไรครับเลยต้องมีการทำรัฐประหาร
คือทหารยอมรับไม่ได้ แต่ตอนนั้นเขาไม่กล้าออกมาพูดอะไรแบบนี้นะ ท่านผบ.ทบ.ออกมาพูดคือท่านเป็นคนจริงใจเป็นคนตรงไปตรงมามั้ง ท่านโมโหท่านก็พูดเลย ตอนนั้นเขาทหารม่ค่อยพูดอะไรอยู่ ๆ เขาทำรัฐประหารเลย แต่พ.ศ.นี้มันไม่ใช่พ.ศ.นั้น แล้วตอนนั้นปัญหามากมาย ทหารก็มีหลายส่วน เพราะฉะนั้นอยากจะบอกว่าเรื่องนี้น่าคิดมากว่าทางกองทัพคิดอย่างไร อาจจะรู้สึกเจ็บปวด แต่อยากจะบอกว่าทางออกประเทศนี้คือยอมรับความจริง ต้องยอมรับว่าพล็อตนั้นใครเป็นคนเขียน เหมือนผังล้มเจ้า เขียนซะใหญ่โตเอามาออก แล้วคดีนี้อ.สุธาชัยไปยอมไกล่เกลี่ย เขาขอให้ไกล่เกลี่ย นาน ๆ เราจะได้เป็นโจทย์ซะที ผังล้มเจ้าไม่ยอมสารภาพว่าใครเป็นต้นทาง มีนายพันคนหนึ่งก็บอกไม่ใช่ ทุกคนอ้อมแอ้มหมดเลย ลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับซิว่าผังล้มเจ้าใครทำ แล้วใช้ผังล้มเจ้าใส่ความคนอื่น เขียนพล็อต พล็อตที่ฆ่าคนก็มาจากผังล้มเจ้านี่แหละมีส่วนสำคัญส่วนหนึ่งว่าพวกนี้เป็นพวกล้มเจ้า แล้วจากที่มีการเสียชีวิตของทหารวันที่ 10 เมษาซึ่งเราไม่รู้เรื่อง อ้างเป็นเหตุว่าพวกนี้มีกองกำลังอาวุธนี่ก็เป็นพล็อตอีก
อย่างนี้ประเด็นเรื่องเผาเซ็นทรัลเวิล์ดก็เป็นหนึ่งในพล็อตนี้ด้วยหรือเปล่าครับ ?
แน่นอนเพราะตอนนี้มี 2 คนถูกเรียกว่าศาลยกฟ้องไปแล้วไม่มีหลักฐานอะไร แล้วเด็กอีก 2 คนที่วิ่งเข้าไปซ่อนตัวเขากำลังรอตัดสินอยู่ ยังไม่ถึง 18 ปีเลย แล้วพวกนี้มีปัญญาไปเผาเซ็นทรัลซึ่งมีการดูแลอย่างเต็มที่เหรอ เพราะฉะนั้นการเผาก็น่าจะเป็นพล็อตอีกพล็อตหนึ่ง คือล้มเจ้ามีตั้งแต่พล็อตทำผังแล้วโยงเหมือนคนบ้าโยงใครต่อมิใครซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย แล้วพูดเป็นตุเป็นตะว่าพวกนี้ล้มเจ้า นี่เป็นเหตุหนึ่งของคำว่าล้มเจ้า แล้วเผาบ้านเผาเมืองเชื่อว่าเป็นพล็อตให้สมเหตุสมผล คือพูดกันตรง ๆ นะ พวกคนเสื้อแดงเป็นชาวบ้านธรรมดา แม้นจะเจ็บใจ แม้นโมโหแต่ไม่มีใครถูกฝึกมา ไม่มีกำลังความสามารถหรอก อย่างมากก็มีพวกผสมโรงเห็นกระจกแตกอาจจะมีใครเราก็ไม่รู้เป็นคนอื่นก็ได้ไปหยิบโน่นหยิบนี่ มีบางคนอ้างว่าขโมยมาม่าเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วตอนนั้นทุกคนมีแต่หนีหมด ที่ไปเจอก็คือไปซ่อนตัว
เหตุการณ์ที่มีการเผาเซ็นทรัลเวิล์ดคือหลังจากที่มีการสลายการชุมนุม บนเวทียุติหมดแล้วใช่มั้ยครับ ?
ตอนนั้นมันยุติบ่ายสองแล้วเผาตอนเย็น มีคนมาขอเยียวยาแล้วมาบอกว่าถูกทหารตีแขนหัก ถามว่าถูกตีที่ไหน เขาบอกว่าถูกตีที่ราชประสงค์ ถามต่อว่าส่วนไหนของราชประสงค์ เขาบอกว่าตรงไฟแดงเลย ถามว่ากี่โมง ตอบว่าหกโมง อาจารย์บอกว่าไปเลย..มันไม่ใช่ หกโมงทหารเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้วคุณจะไปยืนอยู่แล้วให้เขาตีมันเป็นไปไม่ได้ การเผาก็เหมือนกันเป็นไปไม่ได้ คนถูกเคลียร์หมดแล้ว คนไปอยู่ในวัดก็จำนวนหนึ่ง
เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้คือพล็อค พล็อตให้เล้มเจ้า พล็อตให้เป็นพวกมีกำลังต่อสู้ด้วยอาวุธ แล้วพล็อตนี้ถูกล้างสมองคนไทย ล้างสมองทหารจำนวนหนึ่งจนกระทั่งกล้าที่จะยิงประชาชนคนมือเปล่าได้ ขอโทษมีบางคนเขาบอกว่าเวลาซ้อมในราบ 11 เปิดเพลงพระราชนิพนธ์ เพราะฉะนั้นตอนที่เรามีคลิปที่ 10 เมษาเราจะได้ยินเพลงสองเพลง ข้างหนึ่งแดงแด๊งแดง คำถามว่าคุณเอาเพลงพระราชนิพนธ์มาใช้แบบนี้ได้อย่างไร
ทั้งหมดนี้มีอย่างเดียวเหรอคิดว่าเพื่อเอาชนะ ถ้าไม่ชนะตัวเองต้องตายหรืออย่างไร ไม่คิดหรอกเหรอว่านี่คือประชาชนไทยเขามาเรียกร้องประชาธิปไตยธรรมดา แต่ถ้ามองการต่อสู้แบบพวกกลุ่มจารีตนะคือคิดแบบคนโบราณ ว่าถ้าตาย ถ้าแพ้ มิน่าเขาถึงได้จัดการกับคุณทักษิณ แล้วพรรคไทยรักไทยยุบ เจ็ดชั่วโคตรแล้วก็เรียกว่าริบทรัพย์ วิธีคิดคือทำอย่างไรก็ได้ให้ชนะ แต่ถ้าคุณคิดแบบคนในโลกสมัยใหม่ไม่เป็นไรแพ้เที่ยวหน้าก็มาเลือกตั้งก็ชนะจนได้ ไม่จำเป็นต้องใช้การทหาร ต่อสู้ทางการเมือง สันติวิธี แม้กระทั่งคุณมาทำรัฐประหาร คุณจะทำรัฐประหารทั้งชาติหรือ อย่างไรคุณก็จะต้องเลือกตั้ง เลือกตั้งเราก็ชนะได้ แล้วคุณทำรัฐธรรมนูญเฮงซวยมา เที่ยวหน้าเราก็จะต้องแก้ไข แต่คุณดูเดี๋ยวนี้รัฐธรรมนูญเขาไม่ยอมให้แก้ ลงทุนว่าขนาดตุลาการรัฐธรรมนูญต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ ลงทุนสูงมาก แม้กระทั่งจัดการกับเราก็ใช้วิธีการรุนแรงคือใช้การทหารไม่ใช้การเมือง ถ้าคิดแล้วฟันธงว่าเป็นวิธีคิดแบบจารีตที่ไม่คำนึงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตามมา เพราะฉะนั้นเขียนพล็อตตอนต้น ไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองอย่างไร ไม่สนใจว่าตอนนี้เป็น พ.ศ. ไหนแล้ว สนใจอย่างเดียวคือชนะ คุณจะอยู่อย่างไรที่คุณจะไม่มีเลือกตั้ง คุณจะไม่อนุญาตให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วคุณไม่ต้องการให้ประเทศนี้เดินหน้าและก้าวไปสู่ความวิไลซ์ไม่ต้องการประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ทำทุกอย่างได้ ถ้าเราไม่รู้จักวิธีคิดแบบจารีตแล้วคิดว่าเขาคิดเหมือนกับเรา...เราก็ถึงถูกกระทำอย่างนี้