มติชน 14 กันยายน 2555 >>>
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน เวลา 14.00 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามดูระบบการป้องกันอุทกภัยที่จังหวัดสิงห์บุรี บริเวณหมู่ 4 หมู่ 5 ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อตรวจดูแนวเขื่อนกันน้ำที่กำลังดำเนินการก่อสร้างเพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลตำบลอินทร์บุรี ที่ขณะนี้หยุดการก่อสร้าง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูง ทำให้บริษัทผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้และได้ไปตรวจดูเขื่อนกันน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและดูระบบการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจของเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ซึ่งทางเทศบาลเมืองสิงห์บุรีได้ซ่อมและปรับปรุงเขื่อนป้องกันน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในจุดเสี่ยง 4 จุดที่พบเมื่อเกิดอุทกภัยในปีที่ผ่านมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนอกจากนี้ เทศบาลเมืองสิงห์บุรียังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่จำนวน 6 เครื่อง เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดน้ำทะลักเข้าพื้นที่ต่อไป
นายปลอดประสพกล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ต้องการตรวจดูระบบการป้องกันน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่จังหวัดสุโขทัยที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่รู้สึกสบายใจกับมาตรการการป้องกันของแต่ละจังหวัด ซึ่งก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนในพื้นที่ที่การก่อสร้างระบบป้องกันน้ำยังไม่เสร็จ ประชาชนเองก็เข้าใจ เพราะเป็นพื้นที่ที่ท่วมน้ำเกือบทุกปีอยู่แล้ว
จากข้อถามถึงสถานการณ์อุทกภัยในปีนี้ รมว.วิทยาศาสตร์ฯในฐานะประธาน กบอ. กล่าวว่า มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าน้ำจะไม่ท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา เพราะสภาพอากาศในปีนี้ปริมาณฝนมีน้อยกว่าปีที่ 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นน้ำในแม่น้ำก็ต้องน้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ และยิ่งในปีนี้เขื่อนทุกเขื่อนมีน้ำเพียง 50 เปอร์เซ็นต์กว่า ซึ่งต่างจากปีที่แล้ว ที่มีถึง 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ และจะเห็นได้ว่าเมื่อปีที่ผ่านมาน้ำจากแม่น้ำจะไหลเข้าทุ่ง แต่ปีนี้ตรงกันข้ามจะเป็นลักษณะน้ำจากทุ่งไหลเข้าแม่น้ำ ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดอุทกภัยเหมือนปีที่ผ่านมานั้นคงต้องรออีก 100 ปี
ผู้สื่อข่าวถามถึงปริมาณน้ำที่ปล่อยลงประตูน้ำพลเทพ ขณะนี้น้อยเป็นเพราะกลัวว่าพื้นที่บางจังหวัดจะท่วมหรือไม่ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการป้องกันจังหวัดอะไรทั้งนั้น ในการบริหารจัดการน้ำในครั้งนี้ กบอ. มีเครื่องมืออยู่ 2 ตัว ตัวแรกคือเขื่อนเจ้าพระยาจะเป็นตัวป้องกันและช่วยรักษาระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ส่งผลกระทบกับพื้นที่ชุมชนและตัวเมืองเหนือเขื่อนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนตัวที่ 2 คือประตูน้ำพลเทพและคลองมะขามเฒ่าจะใช้เมื่อน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามากจริงๆ ซึ่งคลองระบายน้ำเหล่านี้จะช่วยรักษาระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงท้ายเขื่อนไม่ให้สูง แต่เนื่องจากขณะนี้น้ำยังไม่มากถึงขั้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาจะไม่สามารถรองรับได้ จึงยังไม่จำเป็นต้องปล่อยน้ำออกทางประตูระบายน้ำพลเทพ ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาหากจะสูงขึ้นก็ไม่เกิน 50 เซนติเมตร