'เฉลิม' ยัน 'DSI-กองทัพ' ไร้ปัญหา

คมชัดลึก 22 สิงหาคม 2555 >>>




'เฉลิม' ยัน 'ดีเอสไอ-กองทัพ' ไร้ปัญหา ทุกฝ่ายเข้าใจกันดี เผยคุย 'จตุพร' แล้ว เชื่อสถานการณ์ที่ศาลอาญาเรียบร้อย แนะ 'ชาดา' รีบให้ปากคำ ตร.
22 ส.ค. 55 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พลซุ่มยิงของกองทัพบก ขอเลื่อนให้ปากคำต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ว่า เป็นสิทธิในการเลื่อน เมื่อถามต่อว่าเลื่อนได้กี่ครั้ง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่กล้าแสดงความคิดแทนดีเอสไอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กับดีเอสไอ จะบานปลายหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ทุกอย่างเรียบร้อยเพราะทุกภาคส่วนเข้าใจหมด ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามถึงกรณีที่ทาง ผบ.ทบ. ไม่สบายใจว่าบางสำนวน ไม่ควรนำมาเปิดเผยเพราะอยู่ในชั้นสอบสวน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอแล้วว่า สำนวนการสอบสวนนั้นเป็นความลับทางราชการ เราไม่ควรพูดเองแต่ถ้าเป็นรายงานข่าวก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าไปเคลียร์กับทาง พล.อ.ประยุทธ์ เรียบร้อยแล้ว
ส่วนจะสามารถนำตัวคนผิดมาลงโทษได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถือว่าก้ำกึ่ง  จากการที่ตนอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ คิดว่าคนผิดก็หมั่นรดน้ำมนต์ไว้หน่อยแล้วกัน

'เฉลิม' เผยโทรคุย 'ตู่' แล้ว เชื่อสถานการณ์เรียบร้อย

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญานัดฟังคำสั่งเพิกถอนประกันตัว 19 แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่าเรียบร้อยดี ตนได้รับรายงานจากรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอด โดยให้รายงานทุกครึ่งชั่วโมง และไม่น่ามีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนหากมีคำตัดสินออกมาในทางตรงกันข้ามนั้นเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะรับได้ โดยตนได้คุยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.แล้ว และได้ทำความเข้าใจว่ากระบวนการศาลเราต้องเคารพคำวินิจฉัย นายจตุพรก็เข้าใจและหัวเราะ อารมณ์ดีแสดงว่านอนฝันดี

'เฉลิม' แนะ 'ชาดา' รีบให้ปากคำตำรวจ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้ายประกบยิงนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งทำให้นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ บุตรชายของนายชาดา เสียชีวิตที่ จ.นครราชสีมา ว่า ตนได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา และเช้าวันนี้ได้คุยกับ พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครราชสีมา กับ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งได้ตั้งประเด็นไว้ 2 แนวทาง ซึ่งอาจมีการติดตามลอบทำร้าย แต่เหตุเกิดใหม่ๆยังไม่มีคนให้การ
   “หลังจากหนึ่งวันได้ทราบข้อเท็จจริงว่า มีการประกบรถและเกิดการยิงกันทั้งสองฝ่าย เป็นเหตุให้บุตรชายนายชาดาเสียชีวิต โดยที่พยายามจะสอบพยานเพิ่มเติม แต่สอบมาได้เพียงสองปากและยังไม่ชัดเจน ซึ่งตนได้บอกไปว่าอย่าเพิ่งตัดประเด็นอื่น และพยายามสอบให้ถึงที่สุด ซึ่งเป็นคดีธรรมดาไม่มีอิทธิพล ส่วนผู้ที่นั่งไปในรถจะเกี่ยวข้องอะไรกับผู้เสียชีวิตนั้นยังไม่ทราบ   เพราะยังไม่มีใครให้การ ส่วนที่สืบทราบว่ามีการยิงตอบโต้ได้จากหลักฐาน คือ ปลอกกระสุนปืน ซึ่งนายชาดาและพยานที่เกี่ยวข้อง ควรจะมาให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้รับข้อเท็จจริงเพิ่มเติม” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างประเด็นการเมืองกับเหตุเฉพาะหน้า พนักงานสอบสวนให้น้ำหนักไปทางไหนมากกว่ากัน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุเฉพาะหน้า แต่ตนได้บอกว่าอย่าไปตัดประเด็นใด ดีที่สุดนายชาดา ควรรีบมาให้การเพิ่มเติม ส่วนการที่ผู้เสียหายยังไม่ให้ปากคำเพิ่มเติม จะมีลับลมคมในอะไรหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นไปตามพิธีของศาสนาอิสลาม ไม่มีนัยยะอื่น ส่วนจะมาช้ามาเร็วเป็นสิทธิตำรวจไปบังคับไม่ได้
เมื่อถามว่า หลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุสามารถสรุปคดี แม้ผู้เสียหายจะยังไม่ให้ปากคำได้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้ ตนได้รับรายงานว่าว่าเจอกระสุนของฝ่ายที่ยิงไปสองนัด และทางรถของบุตรชายนายชาดา ด้านหน้าเปิดกระจกพอดี โดยตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายชาดา

'เฉลิม' เย้ยปม 'ยาเสพติด' ในเรือนจำเป็นเรื่องกระจอก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนจะไปประชุมบูรณาการร่วมกับ 11 จังหวัดภาคเหนือแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด ระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค. นี้ พร้อมทั้งยืนยันว่าปัญหายาเสพติด ล้วนมีต้นตอมาจากภาคเหนือทั้งสิ้น และกระจายค้าขายไปทั่วประเทศรวมถึงภาคใต้ โดยมีนักการเมืองหนุนหลัง
   “ย้ำอีกครั้งยาเสพติดภาคใต้ไม่มี ประเด็นปัญหาในเรือนจำเป็นเรื่องกระจอก เอามาเป็นประเด็นคึกโครม ถ้าเอาเข้าจากภาคเหนือไม่ได้ และมันจะซื้อยาที่ไหน นึกเหรอว่าผมไม่ถูกขู่ ถูกขู่ก็พูดไม่ได้เรามีหน้าที่ เป็นรองนายกฯดูแลด้านนี้ อย่าตกใจง่ายอย่าทำตัวเหมือนห่าน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าถูกขู่แล้วใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่บอก” เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือนจำไม่มีอาวุธ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องตั้งสันนิษฐานให้ถูก ตนเคยบอกว่านักโทษประหารต้องประการใน 15 วันก็ถูกคัดค้าน พออยู่ต่อก็ไปทำชั่ว แก้ง่ายไม่เอาไปแก้ยากๆ พวกนี้ถ้าประหารใน 15 วันก็ไปทำชั่วไม่ได้ พอตนคิดขึ้นมาองค์กรสิทธิมนุษยชนก็คัดค้าน ซึ่งปัจจุบันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุตนไม่เห็นด้วย และไม่เต้นตาม พวกค้ายาเสพติดในเรือนจำเป็นพวกนักโทษประหารทั้งนั้น