ฐานเศรษฐกิจ 11 สิงหาคม 2555 >>>
ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์วิพากษ์วิจารณ์กรณีสหรัฐฯให้วีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าประเทศว่า พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงท่าทีของฝ่ายค้านที่มีต่อสิทธิเสรีภาพการบริหารกิจการ ภายในของประเทศต่างๆ หลังจากที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อสหรัฐฯ ที่ออกวีซ่าให้พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งในความเป็นสุภาพบุรุษการเมือง การใช้ลมปากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่มีใครทำกัน เกรงว่าจะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน
นายจิรายุ ยังได้กล่าวถึง เรื่องการถือ 2 สัญชาติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรายังไม่กล้าไปแสดงความคิดเห็นต่อประเทศอังกฤษเลย และถ้าลองทบทวนให้ดี นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็เคยเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายยึดสนามบิน ช่วงนั้น พรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้าน ก็ยังไม่กล้าวิจารณ์ว่าเหตุใดหลายประเทศรวมถึงสหรัฐ ฯ จึงอนุญาตให้นายกษิต สามารถเดินทางเข้าออกประเทศต่างๆได้ เพราะนั่นถือว่าเป็นกิจการภายในและสิทธิ์ของประเทศต่างๆ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนเราไม่ควรไปพูดชักศึกเข้าบ้านซึ่งไม่ใช่มารยาททางการทูตที่คนฉลาดเขาทำกัน
"ทราบว่าทางการทูตในหลายประเทศ ตำหนิประเทศไทยมาแล้วว่าฝ่ายค้านไทยไม่สร้างสรรค์ ทำตัวเป็นฝ่ายค้านโลก ไม่เคารพการบริหารภายในขงประเทศอื่น จนถึงขั้นละเมิดความเป็นผู้ดีทางการทูตมากในช่วงปี 2550-2554 และอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศด้วย” นายจิรายุ กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาข่มขู่รัฐบาลจะดำเนินการตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ไม่ยอมทำหนังสือขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จากสหรัฐฯ นายจิรายุ กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้คงไม่กล้าพอที่จะไปเซ้าซี้กับนานาประเทศ เพราะขนาดรัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ ทั้งทำจดหมาย ใช้งบประมาณแผ่นดินส่งเจ้าหน้าที่ไปจับเอง ข่มขู่ต่างประเทศสารพัด ยังถูกปฎิเสธ ซึ่งในทางกฎหมายระหว่างประเทศ หากประเทศนั้นๆตอบปฎิเสธ ต้องถือว่าคำร้องขอของประเทศนั้นๆถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว วันนี้เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านมา 6 ปี แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ ขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์หยุดสร้างปัญหา