"เจ๋ง" พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภาวนาอย่าติดคุกอีก

โพสต์ทูเดย์ 9 สิงหาคม 2555 >>>




“เจ๋ง” เปิดใจกับโพสต์ทูเดย์ 3 วันก่อนศาลอาญาไต่สวนคำร้องเพิกถอนสิทธิประกันตัวชั่วคราว

สิ้นสุดการนับถอยหลัง วันนี้ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องเพิกถอนสิทธิประกันตัวชั่วคราว 24 แกนนำเสื้อแดง หนึ่งในนั้นคือ ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.มหาดไทย ที่ครึกโครมด้วยการป่าวประกาศชื่อที่อยู่พ่วงเบอร์โทรศัพท์ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและครอบครัวให้มวลชนเสื้อแดง
กรณีของ เจ๋ง ถือว่าหนักไม่น้อย เช่นเดียวกับ จตุพร พรหมพันธุ์ เพราะไม่ได้เป็น ส.ส. จึงไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง หากศาลเห็นว่าต้องถอนประกัน ก็ต้องเข้าคุกทันที ขณะที่ทนายกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยอมรับว่าคดีของ “เจ๋ง” น่าหวาดเสียวที่สุด
“เจ๋ง” เปิดใจกับโพสต์ทูเดย์ 3 วันก่อนศาลอาญาไต่สวนคำร้องเพิกถอนสิทธิประกันตัวชั่วคราว โดยระหว่างสัมภาษณ์เจ้าตัวมีน้ำเสียงและท่าทีที่อ่อนลง ปนสีหน้ากังวลเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อเราถามถึงการเตรียมความพร้อมกับคำตัดสินของศาล
   “ช่วงนี้เดินสายทำบุญเยอะ ไปถึงเชียงใหม่ นั่งสมาธิ แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ขออย่าจองล้าง จองเวร จองกรรมกันเลย ปล่อยให้ผมได้ทำงานรับใช้ประเทศชาติดีเถอะ”
เจ๋ง ยอมรับว่า คำพิพากษาของศาลอาญาออกได้ทั้งหัวและก้อย แต่ยังเชื่อมั่นว่าการขึ้นปราศรัยเปิดเผยที่อยู่พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของครอบครัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อครั้งนั้น ไม่ผิดเงื่อนไขการประกันตัวชั่วคราวในคดีก่อการร้ายเมื่อปี 2553 เนื่องจากเงื่อนไขหลักที่ศาลให้ไว้ มี 2 ข้อ คือ ห้ามยุยงปลุกปั่นและห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
   “ผมเข้าใจว่าตามเงื่อนไขของศาลหมายถึงห้ามยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาประท้วง ก่อคดีทางอาญา หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศตามคดีก่อการร้ายมากกว่า ถ้าคิดว่าผมหมิ่น ล่วงเกิน หรือข่มขู่ ตุลาการเหล่านั้นก็แจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทต่อผมได้ ซึ่งมันคนละเรื่องกับคดีก่อการร้าย ดังนั้นขอความกรุณาและความเป็นธรรมให้กับพวกผมด้วย เพราะผมไม่ได้มีเจตนายุยง ปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย แต่เป็นการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย”
เจ๋ง ขยายความว่า เป็นสิทธิเสรีภาพในรัฐธรรมนูญที่เปิดให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ และยังเชื่อมั่นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาลสถิตยุติธรรม แต่เป็นองค์กรอิสระที่มีสถานะเป็นศาลการเมือง ย่อมสามารถวิจารณ์ได้
   “ต่อให้มีการบอกที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ก็เป็นการยุยงต่อตัวบุคคลให้กระทำต่อบุคคล แต่ผมว่ามันไม่ใช่การยุยงประชาชนให้มาต่อต้านอำนาจรัฐหรือปลุกให้คนมากระทำการต่อต้านรัฐบาล ดังนั้นที่ผมปราศรัยบนเวทีเป็นการพูดคุกคามเสรีภาพของบุคคลนั้นๆ มากกว่า ไม่น่าจะเข้าข่ายการยุยงปลุกปั่นตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด”

คิดอย่างไรถึงใช้วิธีนี้โจมตีตุลาการ ? 

เจ๋ง ชี้แจง “เบอร์ โทร. วันนั้นไปเจอใบปลิวในสถานที่ชุมนุมจึงนำมาประกาศ ไม่ได้เอามาจากสารบบในกระทรวงมหาดไทยตามที่พูดกัน และสไตล์ผมเวลาปราศรัยจะดุๆ หน่อย แต่ไม่ได้เจตนาว่าจะคุกคาม พอเรานึกขึ้นได้ก็ อุ้ยตายแล้ว ! ผิดพลาดไปก็เลยออกมาขอโทษและห้ามประชาชนทันทีว่าอย่า โทร. ไปหาลูกเมียของเขา และสำคัญที่สุดคือ เบอร์เหล่านั้นของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีการตรวจสอบว่าเป็นเบอร์จริงหรือยังใช้อยู่หรือไม่ อาจจะเป็นเบอร์เก่าที่ไม่ใช้แล้วก็ได้”

แกนนำวิเคราะห์กันหรือไม่ว่าใครมีโอกาสโดนถอนประกัน ? 

เจ๋ง ตอบว่า “ทุกคนไม่สามารถคาดการณ์ได้ ผลที่ออกมาได้หมดทั้งบวกและลบ ไม่รู้ว่าใจของศาลท่านจะคิดอย่างไร แต่ยังมีความเชื่อมั่นว่าศาลจะให้ความยุติธรรม อย่างมากที่สุดน่าจะว่ากล่าวตักเตือนและกำชับว่าครั้งหน้าห้ามทำแบบนี้อีก คงไม่ถึงขั้นถอนประกันหรอก (เสียงอ่อน)”

เตรียมพร้อมอย่างไรในวันไต่สวน ? 

เจ๋ง บอกว่า เตรียมกางเกงขาสั้นไว้แล้ว (หัวเราะ) ทำไงได้ หากศาลว่าอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม แต่ถ้าผลออกมาบวกก็กลับมาทำงานต่อ

แล้วถ้าถอนประกันจริงจะเกิดอะไรขึ้น ? 

เจ๋งเสียงจ๋อยลง “ก็เหนื่อยสิ ! คนติดมันเหนื่อยดิ แต่อย่างที่บอก ช่วงวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาที่ผ่านมาเดินสายทำบุญมาหลายวัด ก็สบายใจขึ้น คิดว่าขอให้ได้ทำงานเป็นผู้ช่วยเลขานุการต่อไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน”

ถามไปอีกว่า หากถูกถอนประกันต้องพ้นจากเก้าอี้ผู้ช่วยเลขาฯ รมช. หรือไม่ เจ๋งตอบทันที “ก็ต้องเปลี่ยนสิ มันยกเข้าไปด้วยไม่ได้ (จับเก้าอี้พลางหัวเราะ) แต่คิดว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น ผมไหว้พระตลอด และยังไม่สั่งลาครอบครัว แต่ถึงติดก็ไม่เป็นไร เคยเข้าไปอยู่แล้ว ก็พอปรับตัวได้
   “เคยติดคุก 9 เดือน 3 วัน พร้อมกับ 7 แกนนำ คนที่ไม่เคยติดคุกเลย แต่ต้องมาถูกขังในค่ายนเรศวร ย้ายมาคลองเปรม มาเรือนจำกรุงเทพฯ ใครจะไปคิดว่าต้องมาติดในคดีก่อการร้าย ซึ่งเป็นการตั้งข้อหาที่ไม่สมเหตุสมผล หน้าตาอย่างพวกผมหรือจะก่อการร้าย ต้องมีอาวุธสงคราม ยานพาหนะ และกองกำลัง ถึงจะเรียกว่าก่อการร้าย พวกผมมีแต่มือตบ ตีนตบ หัวใจตบมาสู้กัน มันจะเป็นก่อการร้ายได้อย่างไร...ที่ผ่านมาเราโดนขังในคดีก่อการร้ายและได้รับการประกันตัวก็ถือเป็นความเมตตาของศาลที่ให้สิทธิประกันตัว แต่จะเอาเราจับไปขังอีกรอบในคดีก่อการร้ายที่เริ่มสืบคดีจนถึงเมื่อไหร่ยังไม่รู้ แล้วจะให้โดนขังฟรีๆ หรือ”

ภรรยาว่าไงตอนถูกขัง 9 เดือน ? 

เจ๋งตอบปนหัวเรา “ก็ไปตีกันหน้าเรือนจำ แหม ก็ต้องดูแลกันเป็นธรรมดา”

เจ๋ง ยังเล่าว่า ทุกวันนี้มีลูก 4 คน ลูกแต่ละคนล้วนเป็นฝีมือของผมล้วนๆ แต่ถ้าต้องระหกระเหินเข้าคุกอีก ก็เป็นห่วงครอบครัว ทุกวันนี้ทำหน้าที่เป็นเสาหลัก ภรรยาและลูกที่กำลังเรียนหนังสืออาจต้องเดือดร้อน ดังนั้นยืนยันว่าพร้อมสู้เต็มที่ด้วยหลักฐานที่เตรียมไว้
สำหรับหลักฐานไปยื่นแสดงต่อศาลเป็นเอกสารพร้อมซีดีการปราศรัยหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2555 ที่ได้กล่าวขอโทษตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมเอกสารถอดคำพูดของโฆษกศาลรัฐธรรมนูญที่เคยแถลงว่าตุลาการไม่กังวลต่อการกล่าวปราศรัยที่ระบุชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ของตุลาการ ภรรยาและบุตร อีกทั้งเจ๋งได้ขอโทษแล้ว
แกนนำเสื้อแดงผู้นี้ยังฝากถึงมวลชนที่เตรียมไปชุมนุมให้กำลังใจที่ศาลอาญา ว่า นำเพียงดอกกุหลาบมาให้กำลังใจเป็นพอ ขอย้ำว่าห้ามใช้เครื่องขยายเสียงและวางสินค้าจำหน่ายกีดขวางทางจราจร เนื่องจากขัดกับมาตรการที่ศาลอาญาออกมากำชับก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม หากมีการถอนประกันจริง มองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ หากจะเกิดแรงกระเพื่อมของมวลชน แต่เชื่อว่าคนเสื้อแดงมีระเบียบ รู้ว่าสิ่งใดควรทำ
   “เสื้อแดงก็เหมือนนักรบของรัฐบาล มันเป็นเนื้อเดียวกัน หากเป็นรัฐบาลชุดที่แล้วเราสู้เต็มที่ แต่รัฐบาลชุดนี้เราเลือกมา ดังนั้นคนเสื้อแดงต้องเป็นพลเมืองที่ดีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย อะไรที่พอจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลได้ เราก็ต้องทำ เราอย่าทำให้เป็นภาระรัฐบาลในทุกเรื่อง โดยเฉพาะการชุมนุมเรียกร้องปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ รัฐบาลกำลังช่วยอยู่” เจ๋งทิ้งท้าย