"อะไรจะเกิด...มันก็ต้องเกิด" กับคำนิยามความรู้สึกจากใจ ช่วงชั่วโมงนี้ของ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ กรณีที่ศาลอาญาเตรียมพิจารณาถอนประกันตัว แกนนำ นปช. และพวกรวม จำนวน 24 คน วันที่ 9 ส.ค. นี้ เนื่องจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ยื่นเรื่องเอาไว้ เพราะที่ผ่านมามีการระบุว่า การกระทำของ กลุ่ม นปช. ทั้งการพูดจา รวมไปถึงพฤติกรรมของเหล่าแกนนำเสื้อแดง ที่แสดงออก ทั้งการประกาศหมายเลขโทรศัพท์ รวมไปถึงภรรยาและลูกของตุลาการทั้ง 8 คน บนเวทีปราศรัย ของแกนนำ นปช.บางคน ที่แสดงมาก่อนหน้านี้ ถือได้ว่าเป็นการข่มขู่และคุกคามการทำหน้าที่ ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 8 คน หรือไม่ ?
หากยังจำกันได้ นายก่อแก้วเอง ก็เคยออกมาแถลงข่าวให้พี่น้องประชาชน เตรียมทั้งอาหารและน้ำดื่มให้พร้อม เอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อเตรียมตัวไว้ หากสถานการณ์รุนแรงเลยเถิดไปถึงขั้นเกิดสงครามกลางเมือง ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่า ร่างแก้ไข รธน. ม.291 ไม่ผิด รธน. ม.68 ไม่ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
"ผ่านอะไรมาเยอะ จนรู้สึกชาชิน อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เพราะเราเชื่อว่าเราทำสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าศาลถอนประกันก็ต้องยอมรับ แต่อย่างผมมันยังอยู่ในสมัยประชุมก็ต้องเข้าช่วงนั้น ส่วนตัวพร้อมรับคำตัดสินของศาลอาญาในทุกกรณี โดยในวันที่ 9 ส.ค. ตนจะเดินทางไปที่ศาลในเวลา 09.00 น. เพื่อเข้าให้การต่อศาล หากเหตุการณ์นี้เกิดก่อนปี 2553 ตนคงมีความรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ตอนนี้รู้สึกเฉยๆ และไม่มีความกังวลอะไร ส่วนตัวเห็นเป็นความบริสุทธิ์ใจของตน ที่เดินทางไปที่ศาลอาญา ทั้งที่ความจริงแล้วอาจตัดสินใจยังไม่เดินทางไปศาลอาญาในครั้งนี้เสียก็ได้ เพราะตนมีเอกสิทธิ์ ส.ส. ทั้งยังอยู่ในสมัยวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งเชื่อมั่นว่า จะสามารถชี้แจงได้ นี่ในมุมมองตัวเองนะครับ ก็อยากไปชี้แจงให้เรื่องมันจบๆ ไป คนอื่นที่ได้รับผลกระทบตามตัวเราไปด้วยจะได้ไม่มีปัญหา" นายก่อแก้ว กล่าว
ชัดเจนว่าคำสัมภาษณ์ของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำเสื้อแดงรายนี้ สะท้อนสภาวะในจิตใจเป็นอย่างดี ว่ามีความรู้สึกเป็นอย่างไร ซึ่งหากติดตามมาถึงตรงนี้ ก็เห็นได้ชัดว่า เจ้าของคำพูดน่าจะรู้สึกปลงกับชีวิต และคงพร้อมรับกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งที่คาดฝัน และไม่คาดฝัน ทั้งด้านดีและด้านร้าย
ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมออดอ้อนกลุ่มคนเสื้อแดง
"ส่วนตัวก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องคนเสื้อแดงที่จะไปให้กำลังใจ และห่วงใย แต่ก็ขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งและมาตรการที่ศาลอาญากำหนดออกมาอย่างเคร่งครัด ขอให้เข้าใจการทำหน้าที่ของกันและกัน ศาลเองก็ห่วงใยในการพิจารณาคดีวันนั้น ส่วนตัวก็รู้สึกห่วงใย เพราะศาลห้ามไม่ให้เข้าไป ถ้าพี่น้องไป ก็ไม่ทราบว่าจะให้ไปอยู่ตรงไหน
ทั้งนี้ ตนเองจะไปหารือกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ฺ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) อีกครั้ง ให้ทำความเข้าใจกลุ่มพี่น้องประชาชนให้ดีว่าจะให้ไปอยู่กันตรงไหน เพื่อไม่ให้กระทบกับปัญหาการจราจร ที่บริเวณนั้นก็ค่อนข้างติดขัดมากอยู่แล้ว"
ส่วนมุมมองผู้ ยื่นคำร้องขอให้ถอนประกัน แกนนำ นปช. "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย เพราะแกนนำเหล่านี้ได้รับการประกันตัวมาโดยมีเงื่อนไข เช่น ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามข่มขู่ ห้ามปราศรัยยุยง เพื่อให้เกิดความวุ่นวาย แต่คนเหล่านี้ละเมิดเงื่อนไขแล้ว ทำให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นในบ้านเมือง ทั้งที่ศาลก็เคยเตือนมาหลายครั้ง
"ผมคิดว่ามีเงื่อนไขเพียงพอที่จะถอนประกันแกนนำเสื้อแดงบางคน และถ้าศาลไม่ถอนประกัน ก็ต้องอธิบายถึงเหตุผลด้วยว่า คำพูดเหล่านั้นเป็นการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือไม่ เช่น คำพูด "เบิกเงินสดไว้" "จะเกิดสงครามประชาชน" หรือ "จะไปจับตัวศาล" เหล่านี้พูดได้หรือไม่? การที่ผมไปยื่น ก็เพราะวิเคราะห์แล้วว่า การกระทำของบางคนผิดระเบียบ ผิดเงื่อนไข ประกอบกับที่ผ่านมา เกิดข่าวลือค่อนข้างหนาหูมากขึ้น รวมทั้งมีการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับแกนนำกลุ่ม นปช. ว่า กันโดยเฉพาะในมุมมองของนายใหญ่ พรรคเพื่อไทย อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่สนใจ ผลการพิจารณาไต่สวนจะออกมารูปแบบไหน เพราะมีการส่งสัญญาณผ่าน ส.ส. ในสังกัดของน้องชายอดีตนายกรัฐมนตรีว่า "นายจตุพร และแกนนำ นปช." ในสายตาตอนนี้ ไม่มีผลชี้ขาด ชี้เป็นชี้ตาย ในการต่อสู้ทางการเมือง สำหรับตัวนายใหญ่อีกต่อไป สถานการณ์จึงไม่เหมือนในอดีต ที่ต้องใช้พลังมวลชนต่อสู้กับทหาร จุดสนใจยามนี้ กลับไปอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล มีจำนวนเสียงที่สามารถยกมือโหวตอย่างเบ็ดเสร็จ และพร้อมที่จะโดดเดี่ยว พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และการที่ไม่ให้ความสำคัญแกนนำแดงเหมือนก่อน เพราะสามารถเชื่อมต่อสายตรง กับแกนนำแดงระดับจังหวัดทั่วประเทศได้ทันที"
ประเด็นนี้ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น คุณทักษิณไม่ใช่คนแบบนั้น ยิ่งถ้ามีทุกข์มีร้อน ท่านก็ต้องช่วย ท่านไม่ใช่คนโง่ หรือคนไม่มีน้ำใจ จึงคิดว่าไม่ใช่หรอก แต่อาจจะเป็นคนที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง ที่อ้างคุณทักษิณก็ได้ เพราะที่ผ่านมาก็มีคนอ้างกันทั้งนั้น เนื่องจากใครๆ ก็ไปถ่ายรูปได้ ไปเจอได้ตลอด ก็เลยอ้างคำพูดเพื่อมาบล็อกกันเองก็ได้ เป็นไปได้ น่าจะเป็นอย่างนั้น ยอมรับมันเป็นเรื่องที่เห็นกันอยู่ ว่ามีคนในพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่งที่มีความพยายามสลายกลุ่ม นปช. เราก็เห็นเป็นประจำอยู่แล้ว
"ส่วนที่เกรงกันว่า อาจเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 9 ส.ค. เนื่องจากกลุ่ม นปช. จะไปชุมนุมหน้าศาลอาญา ฟังคำตัดสินถอนประกันแกนนำ นปช. นั้น ส่วนตัวคิดว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะศาลไม่อนุญาตให้เข้าไปข้างใน คงไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะศาลเองก็ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ไม่ให้ใครเข้าไปทำผิด ยิ่งถ้าเกิดมีคนที่พร้อมจะติดคุก 6 เดือน ซัก 1-2 พันคน มันก็คงจะยุ่ง ส่วนที่ถามกันว่า ถ้าศาลมีการถอนประกันแกนนำจริงๆ จะวุ่นวายหรือไม่ อันนี้ไม่ขอตอบ มันก็เป็นการสมมติที่ยังไม่เกิดขึ้นเท่านั้น ความจริงก็ถือเป็นธรรมชาติของประชาชน" ประธาน นปช. กล่าว
ไม่มีใครทราบว่า ถึงท้ายสุด ผลการตัดสินจะออกมาเป็นเช่นไร "จะออกหัว หรือ ออกก้อย" แต่ที่แน่ๆ เหล่าแกนนำเสื้อแดง ถึงตอนนี้ ใจคงเต้นแบบตุ้มๆ ต่อมๆ แบบที่ชาวบ้านชอบเรียกกันว่า "หายใจแบบไม่ทั่วท้อง" อย่างแน่นอน วันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค. นี้ จะได้รู้กัน
