ผลสอบสลายม็อบ-ไม่ใช่ฉบับจริง

ข่าวสด 24 สิงหาคม 2555 >>>





รายงานพิเศษ
จากที่มีการเผยแพร่ร่างรายงานผลการตรวจสอบของอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มี.ค. - 19 พ.ค.2553 ใน 9 สถานการณ์จนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์ เพราะมีหลายประเด็นที่สร้างข้อเคลือบแคลงสงสัยให้สังคมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์ พร้อมชี้แจงว่ารายงานฉบับจริงอยู่ระหว่างการดำเนินกาแถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชนโดยทั่วไปว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้มีรายงานผลการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในช่วงเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม 2553 ตลอดจนมีการวิพากษ์วิจารณ์ผลตามรายงานฯ ดังกล่าว และวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดังความละเอียดปรากฏในสื่อแล้วนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนเพื่อความเข้าใจตรงกันว่า รายงานที่มีรายละเอียดปรากฏในสื่อนั้น ไม่ใช่รายงานที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้จัดทำเป็นข้อยุติแต่อย่างใด เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้จัดทำร่างรายงานฯ เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ เพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วงไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตระหนักดีว่า ภาระอำนาจหน้าที่ดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง การดำเนินการจัดทำรายงานดังกล่าว ต้องประกอบด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และพยานที่เกี่ยวข้องทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุ เพื่อนำมาวิเคราะห์อย่างถ่องแท้ โดยจะสรุปให้สาธารณชนได้ทราบในโอกาสต่อไปโดยไม่ชักช้า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 22 สิงหาคม 2555

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ

ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นข่าวแล้วก็สงสัยว่าสื่อเอาข้อมูลมาจากไหน จึงต้องมีแถลงการณ์ออกมา ขอชี้แจงว่าหลังจากมีข้อมูลรั่วไหลออกมาก่อนหน้านี้ นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการฯ ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกมาร่วมพิจารณา และไม่มีการตั้งคณะอนุกรรมการ 9 ชุด อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใดสำหรับขั้นตอนการทำงานของคณะกรรมการฯ ต่อกรณีนี้นั้น เริ่มจากเชิญผู้ที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ทุกฝ่าย ทั้ง นปช. หน่วยงานรัฐ และสื่อมวลชนมาให้ข้อมูลและส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยด้วย ขณะนี้ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วและอยู่ในขั้นตอนการเขียนรายงาน ซึ่งต้องพิจารณาใช้ถ้อยคำให้เหมาะสม เบื้องต้นทราบว่ารายงานฉบับจริงของคณะกรรมการฯ ไม่ตรงกับที่สื่อเผยแพร่ออกมา และไม่ได้ระบุเป็นข้อๆ ส่วนจะออกมาเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์เมื่อไร ต้องถามจากประธานคณะกรรมการฯ ตนไม่สามารถให้คำตอบได้ ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อรายงานฉบับสมบูรณ์ออกมาย่อมมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรต้องระวัง หรือให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คดีนี้เหมือนคดีด้านสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ที่ทำอยู่ จึงให้ความสำคัญเท่ากัน เพียงแต่สังคมอาจให้ความสนใจมากกว่าปกติ

นพ.แท้จริง ศิริพานิช

ร่างรายงานผลการตรวจสอบของอนุกรรมการฯ ที่ออกผ่านสื่อไปนั้นไม่ใช่ของจริง เป็นของเก่าที่เคยออกข่าวไปก่อนหน้านั้นและมีคนนำเผยแพร่อีก ซึ่งได้มีการตรวจสอบแล้วแต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำมาเผยแพร่ส่วนที่บอกว่าเป็นของอนุกรรมการฯ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ที่ กสม.ทั้ง 7 คน ต้องเป็นผู้พิจารณาเองเท่านั้น ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการพิจารณาและยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งต้องรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อน หากไม่ครบก็จะมีการร้องขอไปยังหน่วยงานต่างๆ และเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามจนกว่าจะได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ โดยไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ว่าจะออกมาเมื่อใด แต่จะเร่งทำให้เร็วที่สุด ในส่วนของการตรวจสอบและข้อสรุปจะแยกเป็นกรณีและเป็นช่วงเหตุการณ์ โดยมีข้อเสนอแนะในตอนท้ายของรายงาน เช่น การเพิ่มเติมกฎหมายและการกำหนดขอบเขตเกี่ยวกับการชุมนุมและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่แต่คงจะไม่เหมือนกับรายงานดังกล่าวที่ออกมา หากผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว จะมีการแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนทันที

วิสา เบ็ญจะมโน

สิ่งที่หลุดออกมาเป็นการนำของเก่าที่เคยเป็นข่าวแล้วมาลง ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ และไม่ใช่ข้อมูลที่รอเสนอกรรมการชุดใหญ่พิจารณารายงานที่นำมาลงเป็นเรื่องเก่า ข้อมูลเก่าของระดับคณะทำงานที่เคยรั่วออกไปตอนที่ยังพิจารณาไม่เสร็จมาแล้วครั้งก่อน แล้วนำไปลง สิ่งที่ กสม.ทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างที่เห็น จึงออกแถลงการณ์เพื่อความชัดเจน หลังคณะทำงานทำเสร็จแล้วเห็นว่ายังต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมอีก จึงได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล โดยกรรมการทั้งคณะได้ลงมาพิจารณา และมีผู้ทรงคุณวุฒิมาช่วย รายงานได้ทำมาไกลแล้วซึ่งอยู่ในชั้นการประมวลข้อมูล ร้อยเรียงเรื่องและดูเรื่องหลักสิทธิมนุษยชน ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่แต่จะพยายามว่าจะไม่ชักช้า เรียกว่าตอนนี้พร้อมที่จะร้อยเรียงเป็นรายงานตามประเด็นที่ตั้งไว้ แล้วจึงจะทำเป็นผลสรุปออกมา จากนั้นจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมกันพิจารณา เป็นการประชุมใหญ่อีกครั้งหลังจากร่วมพิจารณากันมาแล้วระยะหนึ่งเพื่อหาผลสรุปก่อนเผยแพร่ เพื่อความสมบูรณ์ รอบคอบ รอบด้าน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีหลายมุม หลังจากสรุปเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์แล้ว กรรมการ 7 คน ลงนามในรายงานการตรวจสอบ ก็ถือเป็นรายงานที่สมบูรณ์ เผยแพร่ได้

เข้าใจว่าต้องพิมพ์เป็นรูปเล่ม ส่วนหนึ่งคือกรรมการต้องตอบไปยังผู้ร้องเรียน และเสนอความเห็นเชิงนโยบายว่าภาครัฐควรดำเนินอย่างไร ส่วนจะพิมพ์แจกหน่วยงานใดบ้างยังไม่สามารถตอบได้