นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งให้รัฐบาลและเอกอัครราชฑูตไทยประจำประเทศต่างๆ เปิดประตูให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลสหรัฐอเมริการู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยุยงให้เผาบ้านเผาเมือง มีกองกำลังติดอาวุธ และเป็นที่น่าเสียดายที่รัฐบาลโอบามาไปคบโจรนั้น ตนสงสารนาย กษิต ที่สมัยเป็น รมว.ต่างประเทศ ได้พยายามไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เงินภาษีประชาชนทั้งของคนเสื้อแดงที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ ซื้อตั๋วเครื่องบินไปประเทศต่างๆ นอกจากนี้ฑูตและสถานฑูตถูกใช้เพื่อกดดันมิตรประเทศเพื่อไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศ แต่ก็ล้มเหลว ไม่สามารถปิดกั้นการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ เพราะทุกประเทศทราบดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ถูกยึดอำนาจโดยคณะรัฐประหาร และคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดจากการรัฐประหาร เริ่มต้นจาก คตส. ที่ขัดหลักนิติธรรม ดังนั้นประเทศต่างๆรู้ดีว่าเป็นเรื่องการเมือง เขาจึงไม่ร่วมมือกับนายกษิต รัฐบาลปัจจุบันมีนโยบายให้ฑูตไปสร้างความสัมพันธ์และขายสินค้าให้กับเกษตกรไทย และไม่เคยสั่งให้ฑูตและข้าราชการไปเปิดประตูให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่มีความจำเป็นใดๆเลย ท่านไปไหนต่อไหนได้ด้วยตัวท่านเองอยู่แล้ว ขนาดสมัย นายกษิต ไล่บี้ท่านอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็ตามไม่เคยทัน เพราะประเทศอื่นเขารู้ทัน
นายนพดล กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่นายกษิตกล่าวหาว่ารัฐบาลโอบามาไปคบ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นโจรนั้น นายกษิต คงลืมไปว่า ตัวเองเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายปิดสนามบิน ซึ่งมีโทษหนักถึงประหารชีวิต ดังนั้นจึงไม่มีความน่าเชื่อที่จะไปวิจารณ์รัฐบาลสหรัฐอเมริกา และ นายกษิต คงจะเป็นอดีต รมว.ต่างประเทศ ที่สะกดคำว่ามารยาททางการฑูตไม่ถูก สำหรับกรณีที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโจรนั้น ขอให้รอรับหมายศาลได้ เพราะเราจะดำเนินคดีอาญาแน่นอน เพราะเข้าข่ายหมิ่นประมาทชัดเจน ทั้งนี้ปกติการพาดพิงทางการเมืองเราก็พยายามอดทน แต่การกล่าวหาเรื่องนี้ต่ำและรุนแรงเกินไป อุปมาอุปไมย เหมือนเวลาเราเดินถนนแล้วมีสุนัขแว้งกัดประจำ ก็คงต้องปรามกันบ้างให้หลาบจำ