โต้ ปชป. นำฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ เทียบสลายการชุมนุมปี 53 ไม่ได้ ย้ำ อย่าว่าแต่ 2,500 ศพเลย พ่อค้ายาตายไปให้หมดประเทศ มีแต่คนเขาสรรเสริญ ฝ่ายแย้งหวั่นวิธีคิดน่ากลัว ยันรัฐต้องคำนึงถึง สวัสดิภาพในชีวิตก่อน
วานนี้ (26 ส.ค.55) เฟซบุ๊กแฟนเพจ “Oak Panthongtae Shinawatra” ซึ่งเป็นของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โพสต์รูปภาพประกับข้อความถึงการสนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องพรรคประชาธิปัตย์ เปรียบเทียบการสลายการชุมนุม เมษา-พ.ค. 53 กับนโยบายปราบปรามยาเสพติด จนส่งผลให้เกิดการฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ นั้น ซึ่งเฟซบุ๊กแฟนเพจโอ๊ค โต้ว่าเทียบกันไม่ได้ เผยจากการถามคนกลางๆ ไม่เหลืองไม่แดง มองการสลายการชุมนุมรุนแรงและโหดร้ายเกินไป ขณะที่พ่อค้ายา อย่าว่าแต่ 2,500 ศพเลย ตายไปให้หมดประเทศ มีแต่คนเขาสรรเสริญ ทั้งนี้หลังจากมีการโพสต์ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้มีชาวเฟซบุ๊กทั้งสนับสนุนและวิพากษ์วิจารณ์ตามมา โดยข้อความที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กแฟนเพจของนายพานทองแท้ ชินวัตร ระบุว่า
เจอคุณพ่อที่ปักกิ่งเที่ยวนี้ ผมได้เล่าให้คุณพ่อฟังเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามชี้แจงเรื่อง 98 ศพจากการสลายการชุมนุม ด้วยการเปรียบเทียบว่า ยังน้อยกว่าสมัยที่คุณพ่อปราบยาเสพติดจนแทบจะหมดจากประเทศไทย ส่งผลทำให้มีการฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ คุณพ่อถึงกับอึ้งในวิธีคิดตอบโต้ ของพรรคเจ้าหลักการที่ชื่อ ปชป. เลยครับ
ไม่ทราบว่าเขาเอา Logic แบบไหนมาเปรียบเทียบ เพราะการสลายการชุมนุมนั้น ไม่ได้มีผู้เดือดร้อนเฉพาะผู้เสียชีวิต 98 ท่านเท่านั้น แต่ย่อมหมายรวมถึงญาติพี่น้องของผู้สูญเสีย,ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและพิการอีกกว่า 2,000 คน อันประกอบด้วย ผู้ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย, ออกมาเรียกร้องความชอบธรรม และความเสมอภาคไม่เป็น 2 มาตรฐาน,รวมถึงตำรวจ-ทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
ส่วนการ"ฆ่าตัดตอน"นั้น เขาหมายถึงการที่ผู้ค้ายาด้วยกันเองเกรงว่า ผู้ร่วมกระทำผิดจะซัดทอดสาวมาถึงตัว จึงจำเป็นต้องฆ่าปิดปาก ไม่ได้หมายถึงการฆ่าผู้ค้ายาโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ แบบนั้นเขาเรียก "วิสามัญฆาตกรรม" หรือ"จับตาย" ซึ่งการที่จะกระทำได้ ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆในขั้นตอนปฏิบัติอีกเยอะครับ ลองถามคนที่เป็นกลางๆ "ไม่เหลือง,ไม่แดง,ไม่แมลงสาบ" ดูสิครับ ว่าเขาคิดอย่างไร ระหว่าง
1) ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ฯ ผู้ที่ออกมาเรียกร้อง ปชต. ต้องสูญเสียชีวิตไป 98 คน จากการสลายการชุมนุม
2) ในสมัยรัฐบาลทักษิณฯ นักค้ายาเสพติดซึ่งถือว่าเป็น ผู้ที่นำพาสิ่งที่เลวร้ายมาสู่ลูกหลานไทย ถูกกดดันปราบปรามจากภาครัฐอย่างจริงจัง จนกระทั่งฆ่าตัดตอนกันเอง ส่งผลให้ยาเสพติดแทบจะหมดไปจากผืนแผ่นดินไทย
ผมลองถามหลายท่านแล้ว ล้วนแต่ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า การสลายการชุมนุมทางการเมืองจนมีคนตาย 98 คนนั้น รุนแรงและโหดร้ายเกินไป
ส่วนพ่อค้ายานั้น อย่าว่าแต่ 2,500 ศพเลยครับ ตายไปให้หมดประเทศจะกี่หมื่นกี่แสนคน เอาแบบให้สาบสูญ หรือสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยเลย มีแต่คนเขาสรรเสริญทั้งนั้น ดูเหมือนจะมีแต่พรรคประชาธิปัตย์หรือเปล่าครับ ที่ดูจะเป็นห่วงเรื่องนี้เสียจริง
ภายหลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวมีคนแสดงความคิดเห็นสนับสนุน จำนวนมาก นอกจากแชร์และกดไลค์ ตัวอย่างเช่น ความเห็นหนึ่งที่บอกว่า
ผมไม่แดงไม่เหลืองนะ แต่ขอแสดงความคิดเห็นแบบกลางๆ แบบว่าในสมัยคุณทักษิณเนี่ยผมเห็นด้วยกับการปราบยาเสพติดอย่างจิงจังคับ ช่วงนั้นแถวๆบ้านสงบขึ้นเยอะ แต่ก็มีข่าวออกมาไม่น้อยว่ามีผู้บริสุทธิ์ถูกปรักปรำทำให้ต้องเสียชีวิตไปด้วยในเหตุการณ์ครั้งนั้น จริงรึป่าวไม่รู้ แต่หากจะปราบปรามกันอีกครั้งควรจะมีความระมัดระวังให้มากขึ้นนะครับ
ส่วนในยุคอภิสิทธิ์ (ชน) นั้นการออกมาประท้วงของผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยนั้น ไม่ควรเป็นความผิดอย่างยิ่ง ประเทศที่พัฒนาแล้วต่างยอมรับความคิดที่แตกต่างกันเพื่อให้สังคมของตัวเองสงบสุข และคนเหล่านี้ไม่ควรตาย เท่าที่ติดตามข่าว มีการยกเลิกการชุมนุมก่อนที่จะมีการยึดพื้นที่และจับแกนนำได้ แล้วทำไมยังต้องมีการใช้กำลังจนมีคนตายเกิดขึ้นอีก ผู้ค้ายาเสพติดสมควรตาย แต่ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตย สมควรตายหรือไม่คับท่าน "มาร์ค"
โดยมีผู้แย้งเช่น จ่าพิชิต ขจัดพาลชน ซึ่งเป็น แอ็ดมินเพจ ดังอย่าง “Drama-addict” ได้โพสต์แสดงความเห็นว่า
วิธีคิดของโอ๊คแม่งน่ากลัวเชี่ยๆ ไอ้ตอนที่ฆ่าตัดตอน 2,500 ศพนั่นเอ็งแน่ใจได้ไงวะว่าเป็นผู้ค้ายาทั้งหมด
นอกจากนี้ เพจ “วิวาทะ” ยังได้นำความเห็นของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “มิตรสหายท่านหนึ่ง” ว่า
ด้วยความเคารพ ต่อให้เขาค้ายาจริงๆเขาก็ไม่สมควรตายครับ และคนที่ตายนี่ส่วนมากรายเล็กทั้งนั้น แน่นอนว่ามันเทียบกันกับวิสามัญฆาตกรรม เมษา-พ.ค. 53 ไม่ได้ แต่การค้ายาก็วิสามัญฯไม่ได้เช่นกัน รวมทั้งมีนโยบายเปิดโอกาสให้ตัดตอนไม่ได้ รัฐต้องคำนึงถึง สวัสดิภาพในชีวิตก่อน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา เดลินิวส์ รายงานว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสื่อยื่นอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศรวมทั้งประธานศาลอาญาระหว่างประเทศที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เป็นการร้องศาลอาญาระหว่างประเทศในเรื่องกระบวนการฆ่าตัดตอนตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยากเรียกร้องให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการดังกล่าว เช่น กรณีของน้องฟลุ๊คที่ถูกลูกหลงจากการจับกุมยาเสพติดของตำรวจให้มาร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ด้วย
