ทีมข่าว นปช.
22 สิงหาคม 2555
เมื่อเวลา 15.40 น. ศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวการ ยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) แล้ว โดยขณะนี้ วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กำลังดำเนินการยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวยศวริศเป็นเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท แต่เนื่องจากใกล้เวลาปิดทำการของศาล จึงต้องเลื่อนการยืนขอประกันตัวไปเป็นอาทิตย์หน้า ส่วนแกนนำ นปช. อื่นศาลมีคำสั่งยกคำร้องเพิกถอนการประกันตัว
ศาลพิเคราะห์กรณีที่สำนักงานศาล รธน. และ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ มีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนการประกันตัวได้หรือไม่ และศาลมีอำนาจในการพิจารณาถอนประกันหรือไม่
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การอนุญาตให้ประกันตัวจำเลย 18 คน (ยกเว้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, การุณ โหสกุล, วิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ พงษ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง) เป็นไปโดยมีเงื่อนไข ซึ่งจำเลยทั้งหมดจำต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ในคดีอาญาแผ่นดิน บุคคลใดที่รับรู้การกระทำที่ผิดเงื่อนไขการประกันตัวแม้จะไม่ใช่คู่กรณีก็สามารถยื่นคำร้องได้ หรือแม้แต่ศาลหากรับรู้การกระทำดังกล่าวก็สามารถหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเองได้ เพื่อเป็นการป้องกัยภยันอันตราย ดังนั้นสำนักงานศาล รธน. และนิพิฏฐ์ซึ่งไม่ใช่คู่กรณีจึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอถอดถอนได้ หรือแม้จะไม่มีผู้ใดยื่นคำร้องศาลก็สามารถหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเองได้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การปราศรัยของจำเลยที่ 1 (วีระกานต์ มุสิกพงศ์) จำเลยที่ 6 (ขวัญชัย ไพรพนา) จำเลยที่ 8 (นิสิต สินธุไพร) และจำเลยที่ 24 (อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง) ที่มีลักษณะหมิ่นเหม่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นการกระทำทีผิดเงื่อนไขการประกันตัวแต่อย่างใด ส่วนจำเลยที่ 12-23 ไม่มีการกระทำใดที่เป็นการผิดเงื่อนไขการประกันตัวเช่นเดียวกัน จึงให้ยกคำร้อง
ส่วนจำเลยที่ 2 (จตุพร พรหมพันธุ์) ซึ่งกล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 55 ที่หน้ารัฐสภานั้น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เป็นการปราศรัยที่มีลักษณะเสียดสี ประชด ใช้คำที่ไม่สุภาพ ไม่สมควร แต่ก็ไม่เป็นลักษณะเหยียดหยาม คุกคาม กดดัน หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อศาล รธน. แต่อย่างใด เป็นการวิจารณ์ตามกรอบของ รธน. ไม่เป็นการผิดเงื่อนไขการประกันตัว จึงให้ยกคำร้อง
ส่วนจำเลยที่ 7 (ยศวริศ ชูกล่อม) ซึ่งกล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 55 ที่หน้ารัฐสภาเช่นเดียวกัน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 7 ไม่ปฏิเสธว่า บุคคลที่อยู่ในคลิปปราศรัยไม่ใช่ตนเอง และยอมรับว่า พูดจริง โดยอ้างว่า การปราศรัยดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องสนุกสนานตามนิสัยของตนเอง แต่ศาลเห็นว่า การปราศรัยดังกล่าวมีลักษณะส่อให้เห็นเจตนาที่จะก่อให้เกิดความเกลียดชังตุลาการ รธน. คำกล่าวที่ให้ผู้ฟังแวะเวียนไปเยี่ยมบ้านของตุลาการ รธน. อาจทำให้ผู้ฟังกระทำอันตรายตุลาการ รธน. เป็นการกดดันการทำหน้าที่ของตุลาการ รธน. การนำข้อมูลส่วนตัวมาเปิดเผยเป็นการแสดงออกถึงเจตนาร้าย ไม่นำพาไปตามเงื่อนไขการประกันตัว แม้ต่อมาจะได้ขึ้นกล่าวขอโทษก็ไม่อาจเป็นการลบล้างการกระทำดังกล่าวได้ จึงเป็นการผิดเงื่อนไขการประกันตัว โดยไม่จำเป็นต้องเกิดเหตุการณ์ไม่เรียบร้อยขึ้นก่อน เป็นการพูดตลกแบบขาดความยับยั้งชั่งใจ หากยังปล่อยให้ประกันตัวต่อไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น เป็นการล่วงละเมิดต่อ กม. และผิดเงื่อนไขการประกันตัว จึงมีคำสั่งให้ถอนการประกันตัว
นอกจากนี้ศาลยังพิจารณาเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการประกันตัวใหม่กับจำเลยทั้ง 17 คนใหม่ โดยห้ามการกระทำที่เป็นการดูหมิ่น ยั่วยุ กระทบต่อเกียรติยศ หรือความสงบเรียบร้อย และห้ามจำเลยทั้ง 17 คนออกนอกราชอาณาจักร ยกเว้นจะได้รับอนุญาตจากศาล
ภายหลังจากที่ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวยศวริศ ขณะนี้ด้านล่างของศาลมีรถตู้ของราชทัณฑ์จำนวน 2 คันมาจอดรอด้านหลังศาลอาญา และมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และหน่วยคอมมานโดจากกองปราบมารักษาความปลอดภัย ทั้งนี้คาดว่าในการขนส่งยศวริศไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยจะมีรถของกองปราบฯ คอยปิดหัวท้ายขบวนด้วย