ถามกันไปทั่วเมือง จนขี้หูร่วงว่า ทำไม อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ กระโดดขึ้นเวทีประชาธิปัตย์ เอาเข้าจริง แก้วสรร กับ ประชาธิปัตย์ เกือบจะเป็นคอหอยลูกกระเดือก
ก่อนเลือกตั้ง 4 กรกฎาคม 2554 แก้วสรร จงใจเล่นงาน "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ให้ตายคามือ โดยกล่าวหาว่า น้องสาวทักษิณ ให้การเท็จในคดีซุกหุ้น ภาค 2
หนักกว่านั้น แก้วสรร เขียนบทสัมภาษณ์แบบ ถามเองตอบเอง ตามสไตล์แก้วสรร โดยตั้งประเด็นน่าหวาดเสียวว่า
ถ้าประชาชนต้องการพรรคที่เอาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เลือกประชาธิปัตย์ ถ้าประชาชนต้องการพรรคที่ปกครองระบบประชาธิปไตย แต่เอาสถาบันกษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เลือกเพื่อไทย
แต่ที่สุด 4 ก.ค. 2554 ประชาชน 15 ล้านคนเลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และเลือกให้ประชาธิปัตย์ไปเป็นฝ่ายค้าน
แก้วสรรเคยสอนกฎหมายที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ รุ่นเดียวกับ สมยศ เชื้อไทย จนเป็นที่มาของฉายา "องค์ขาว -องค์ดำ" ต่อมาแก้วสรรก่อนกระโดดลงมาเล่นการเมืองเป็น ส.ว. เคยอยากเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่ไม่ได้รับการสรรหา
แต่ขั้วการเมืองที่เลือกแก้วสรรจริงๆ คือ คณะรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ที่แต่งตั้งให้เขาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ร่วมคณะเดียวกับ สัก กอแสงเรือง และบรรเจิด สิงคเนติ
อาจเป็นเพราะความที่แก้วสรรเป็นพวกไม่เอาทักษิณอย่างชัดแจ้ง สายพันธ์เดียวกับ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ธีรยุทธ บุญมี หมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แก้วสรร ตามล้างตามเช็ดระบอบทักษิณ จนถูกวิจารณ์ว่า ขยันเพื่อประชาธิปัตย์เกินเหตุ
แหล่งข่าว กล่าวว่า ครั้งหนึ่ง ช่วงปีปลายปี 2551 ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีชื่อ แก้วสรร อติโพธิ ถูกเสนอชื่อเป็นตัวแทน ปชป. ลงชิงชัย ก่อนจะพลิกมาเป็นชื่อ คุณชาย สุขุมพันธ์ บริพัตร