นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันที่ 9 สิงหาคม ที่ศาลนัดไต่สวนแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 24 คน ที่เป็นจำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้าย เพื่อพิจารณาว่ากระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวหรือไม่
จุมพล ชูวงษ์
รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา
ในวันที่ 9 สิงหาคม จะใช้ห้องผู้อำนวยการศาลอาญาเป็นกองอำนวยการ และจะมีการแบ่งพื้นที่ศาลอาญาออกเป็น 3 พื้นที่ คือ พื้นที่นอกรั้วศาลอาญา พื้นที่ด้านในรั้วศาลอาญา โดยจะนำแผงเหล็กมากั้นตั้งแต่ลานจอดหน้าธนาคารออมสินเรื่อยมาจนกระทั่งสุดด้านหน้าศาลอาญา และพื้นที่ด้านในอาคารศาลอาญา ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามเข้าเด็ดขาด ห้ามเดินไปไหนมาไหนตามอำเภอใจ
ผู้ที่มาติดต่อราชการศาลจะต้องแลกบัตร ผู้มาติดต่อคดีไม่ว่าคดีที่ศาลจะสอบถามจำเลยคดีก่อการร้ายหรือมาติดต่อศาลปกติก็จะถูกจำแนกด้วยสีบัตร สื่อมวลชนก็จะต้องจำแนกบัตรเช่นกัน สำหรับรถโมบายถ่ายทอดสดจะอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าศาลอาญา เพราะต้องกันพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงาน
ขอทำความเข้าใจก่อนว่า ในวันที่ 9 สิงหาคม ยังไม่มีการชี้ชัดว่าจะมีการเพิกถอนประกันจำเลยหรือไม่ เพราะอยู่ที่ข้อเท็จจริงในการพิจารณาไต่สวน ตอนนี้จึงยังไม่มีการสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือสถานการณ์ในกรณีที่ศาลเพิกถอนประกันตัว ต้องขอดูข้อเท็จจริงในการไต่สวนก่อน ศาลยังไม่ได้คาดหมายว่าจะมีการถอนประกันหรือไม่ อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ตอนนี้ที่ทำเพียงหามาตรการรักษาความปลอดภัยไม่ให้เกิดความวุ่นวายเหมือนวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ศาลสอบถามนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ว่ากระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวหรือไม่
อรอุษา กฤษณะโลม จรัญรัตนศรี
เลขานุการศาลอาญา
คดีนี้อาจจะเห็นว่าศาลมีการเตรียมมาตรการต่างๆ อย่างมาก แต่ที่ศาลอาญาทำอย่างนี้ ต้องขอชี้แจงว่าในวันที่ 9 สิงหาคม จะไม่อนุญาตให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาในรั้วศาลอาญา สามารถอยู่ได้เพียงนอกรั้วศาลเท่านั้น เพราะศาลไม่มีนัดคดีนี้คดีเดียว จึงต้องมีมาตรการรักษาความเรียบร้อย เพราะถ้าศาลไม่ทำจะกระทบกับผู้มาติดต่อราชการศาลในคดีอื่นๆ
ในวันที่ 9 สิงหาคม มีคดีอื่นที่ศาลต้องพิจารณาอีก 70 คดี มีผู้เกี่ยวข้องที่ต้องเดินทางมาศาลปกติอีกร่วม 100 คน ถ้าศาลไม่ทำอะไรเลยจะกระทบกับการมาศาลของประชาชนในคดีอื่นอย่างยิ่ง จึงได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้ทุกฝ่ายได้รับความสะดวก และขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ช่วยประชาสัมพันธ์กับประชาชนด้วย
ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ที่สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ ได้รับเสียงสะท้อนจากแกนนำ นปช.ไปในทางที่ดีที่จะให้ความร่วมมือกับศาลอาญาว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร แต่ครั้งนี้มีการประชาสัมพันธ์ข้อกำหนดรายละเอียดชัดเจนทำให้ทางแกนนำเห็นว่าต้องใช้ความร่วมมือที่จะประสานกับกลุ่มเสื้อแดงเอง และถ้าเป็นไปได้อยากประชาสัมพันธ์ว่ารอฟังข่าวอยู่ที่บ้านก็ได้ เพราะหากเดินทางมาศาลอาจได้รับความไม่สะดวกทั้งเรื่องสภาพอากาศ การจราจร ห้องน้ำห้องท่า
ศาลอาญาไม่ได้ปิดกั้น การพิจารณาคดีต้องเป็นไปโดยเปิดเผย แต่ทั้งนี้ ถ้าเป็นไปด้วยความไม่สะดวกก็จะเกิดความไม่คล่องตัวของคนเสื้อแดง พื้นที่ศาลไม่ได้มีไว้รองรับผู้มาชุมนุมอยู่แล้ว เพราะบริเวณศาลก็คับแคบ การจราจรก็ติดขัด
พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันต์
ผกก.สน.พหลโยธิน
กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเหตุการณ์เฉพาะหน้าจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.พหลโยธิน จำนวน 70 นาย โดยไม่ติดอาวุธ แต่ถ้าเหตุการณ์เฉพาะหน้าเปลี่ยนแปลงจะมีการประเมินปรับใช้กำลังเพิ่มขึ้นจากเบาไปหาหนัก โดยมีกำลังหนุนเตรียมพร้อมเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ จะเริ่มมาตรการให้เห็นตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า จะประเมินสถานการณ์ตลอดเวลาและปรับกำลังให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่ปรากฏ
ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีผู้มาให้กำลังใจจำนวนเท่าใด แต่เบื้องต้นผู้บังคับบัญชาได้ประสานทางแกนนำ นปช.แล้ว ให้ควบคุมผู้เดินทางมาให้กำลังใจให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะการที่มีมวลชนมาจำนวนมากต้องมีการประชาสัมพันธ์ขอร้องให้รักษาความสงบ
ผู้ที่จะเข้ามาในอาคารศาลอาญาจะต้องผ่านการตรวจสแกนเครื่องหาวัตถุระเบิดเพื่อความปลอดภัย เช่นเดียวกันกับรถยนต์ที่จะเข้ามาจอดในบริเวณศาลอาญาจะต้องมีการตรวจหาวัตถุระเบิด แต่ถ้าหากในวันนั้นมีรถยนต์เป็นจำนวนมากจะไม่อนุญาตให้เข้ามาจอด โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกให้จอดรถได้ตั้งแต่ถนนรัชดาภิเษกขาออกหน้า สน.พหลโยธิน เรื่อยมาจนกระทั่งหน้าศาล ซึ่งหากรถยนต์มีจำนวนมากอาจต้องมีการปิดถนน ซึ่งจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบเป็นระยะผ่านทางสถานีวิทยุ จส.100 สวพ.91 และสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
ส่วนที่มีการจับกุมอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น คงไม่เกี่ยวกับที่จะมีการไต่สวนแกนนำ นปช. 24 คนในวันที่ 9 สิงหาคม เพราะไม่มีสิ่งบอกเหตุ
นางธิดา ถาวรเศรษฐ
ประธาน นปช.
คนเสื้อแดงไปให้กำลังใจแกนนำของพวกเขา และไม่ได้ไปละเมิดอำนาจแต่อย่างใด แต่น้อมรับคำสั่งศาลทุกประการ ครั้งที่ผ่านมาคนเสื้อแดงก็มาชุมนุมกันอย่างเป็นระเบียบ ในครั้งนี้ศาลไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในศาล ตามความเห็นคิดน่าจะให้เข้าไปภายในบริเวณศาลได้ เพราะจะช่วยลดความแอดอัดไม่ต้องปิดการจราจร และให้ประชาชนได้เข้าไปหลบอากาศร้อนด้วย ซึ่งคิดว่าจะมีคนมาให้กำลังใจไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นคน
ราเมศ รัตนะเชวง
ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์
ในวันที่ 9 สิงหาคม ศาลอาญาจะมีการนัดพิจารณาคดีที่มีการร้องให้ถอนประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ และ 23 แกนนำ นปช. ผมจึงทำจดหมายเปิดผนึกเป็นข้อกำหนดของศาลอาญาที่ได้ออกเพื่อป้องกันและปรามคนเสื้อแดง ไม่ให้คุกคามการทำหน้าที่ของศาล หรือชุมนุมหน้าศาล โดยจะส่งถึงแกนนำคนเสื้อแดง และสำเนาถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เพราะไม่มีเหตุผลและความจำเป็นที่เสื้อแดงจะไปชุมนุมหน้าศาลอาญา และขอเตือนสติคนเสื้อแดงว่า หากกระทำการใดๆ ที่เป็นการละเมิดศาลจะต้องติดคุกถึง 6 เดือน โดยที่แกนนำคนเสื้อแดงไม่ได้มาติดคุกด้วย
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็เป็นเนื้อเดียวกับคนเสื้อแดง ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะปฏิเสธความรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นผู้นำของประเทศ จึงไม่ควรนิ่งเฉย ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมล้มเหลวไปมากกว่านี้ และไม่ควรปล่อยให้ศาลอาญาต่อสู้กับคนเสื้อแดงเพียงลำพัง