แนวหน้า 5 สิงหาคม 2555 >>>
ดันแม้วขึ้นศาลโลก คดีสั่งฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ “กษิต ภิรมย์” รับอาสาลุยเอง เชิญผู้เสียหายร่วมเป็นโจทก์ “นพดล” โดนป้อง ”นายใหญ่” อ้างไม่ได้สั่งให้ ตร. ไปฆ่าใคร
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ในคดีฆ่าตัดตอนยาเสพติด 2,500 ศพ ว่า ล่าสุด นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้ส่งจดหมาย 2 ฉบับ เพื่อยื่นต่ออัยการและประธานศาลอาญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับข้อมูลการแก้ปัญหาความไม่สงบทางการเมือง ปี 2553 ที่กลุ่มเสื้อแดงยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และปัญหาการฆ่าตัดตอผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดียาเสพติด ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีกระบวนการฆ่าตัดตอนเกิดขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการดังกล่าว มาร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย โดยเฉพาะกรณีน้องฟลุ๊คที่ถูกลูกหลงจากการจับกุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ไปร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ กรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศไม่สามารถดำเนินการได้นั้น ความจริงในจดหมายที่ยื่นก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการเหตุการณ์ความไม่สงบทั้งหมดก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและ นายอัมเตอร์ดัม นั่นเอง ที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบเพราะเป็นผู้ที่ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เพื่อให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี2553 อีกทั้ง น.ส..ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯก็เป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นนายกฯในรัฐบาลนี้ซึ่งก็ยินดีที่จะให้ตรวจสอบแต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลเองพยายามนิรโทษกรรมและล้างผิดให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โดยไม่มีการสอบสวนมากกว่า
นอกจากนี้ นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงข่าว นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ถอนตัวจากการเป็นล็อบบี้ยิสต์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยย้ำว่า นายอัมสเตอร์ดัมไม่ใช่ทนายความส่วนตัว แต่เป็นล็อบบี้ยิสต์ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปัจจุบัน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นลูกค้าของบริษัทบาบัวกริฟฟิกแอนโรเจอร์ และบริษัทอัมสเตอร์ดัมแอนด์พาร์ทเนอร์ ที่เกี่ยวข้องกับนายอัมสเตอร์ดัม ดังนั้น การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้นายอัมสเตอร์ดัมเป็นทนายความ เป้าหมายไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือกลุ่มคนเสื้อแดง และเพื่อนำนายอภิสิทธิ์ขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่เป็นการล็อบบี้เพื่อให้ได้วีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ
ทางด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีการสั่งให้ฆ่าตัดตอนแต่อย่างใด และที่ผ่านมายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการเสียชีวิตในทุกคดีนั้น เกิดจากสาเหตุใดบ้าง และไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากการวิสามัญฯหรือการจงใจฆ่าโดยเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวนเท่าใด
“รัฐบาลในขณะนั้นไม่ได้มีนโยบายหรือมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐฯไปฆ่าใคร การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่จึงต้องพิสูจน์และสอบสวนเป็นแต่ละกรณีไป การจะสรุปว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องรับผิดชอบ จึงพอ ๆ กับการสรุปว่าประเทศไทยมีพายุเข้ามากเพราะมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี” นายนพดล กล่าว
สำหรับกรณีที่ศาลอาญาจะมีการพิจารณาว่าจะถอนประกันนายจตุพร พรหมพันธ์ หรือไม่ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ซึ่งนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานกลุ่มนปช. ได้ออกมายืนยันก่อนหน้านี้ว่าจะมีคนเสื้อแดงมาชุมนุมที่ศาลอาญาเพื่อให้กำลังใจนายจตุพร และหากเกิดความวุ่นวายขึ้นก็ต้องโทษศาลอาญานั้น นายเทพไท เสนพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ ว่า การพูดเช่นนี้ นางธิดา กำลังแข็งข้อและท้าทายอำนาจศาลอย่างชัดเจน เป็นการโยนความผิดให้ศาล โดยไม่ดูพฤติกรรมของตัวเองและคนเสื้อแดงว่ามีความผิดอย่างไร ซึ่งการที่ศาลออกคำสั่งห้ามการชุมนุมหน้าศาลตั้งแต่ต้นก็เป็นการป้องกันเหตุความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่การที่นางธิดาบอกว่าหากความวุ่นวายเกิดขึ้นต้องไปโทษศาลอาญานั้น
“เมื่อศาลมีคำสั่งชัดเจนเช่นนี้ก็อยากจะให้ทุกฝ่ายได้เคารพและปฏิบัติตามคำสั่งของศาล และอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศาลอย่างเคร่งครัด อย่าปล่อยให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย อย่าให้คนเหล่านี้ทำตัวเป็นอภิสิทธิชนก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมได้ ไม่เช่นนั้นคำสั่งศาลก็จะไม่ศักดิ์สิทธิ” นายเทพไท กล่าว
ส่วน พ.ต.อ. พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบก.น. กล่าวถึง มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณศาลอาญา รัชดาภิเษก ในวันที่ 9 สิงหาคม นี้ว่า ขณะนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าจะใช้กำลังเท่าใด เนื่องจากต้องเข้าหารือกับทางศาล ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ก่อน อย่างไรก็ตามทาง บก.น.2 มีความพร้อมในการดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่
ส่วนการจัดพื้นที่ในการชุมนุมนั้น เบื้องต้นได้จัดพื้นที่ด้านหน้าศาลไว้ให้ จะห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปยัง พื้นที่ศาล เพราะนอกจากรบกวนศาลแล้ว ยังรบกวนประชาชนที่มาขึ้นศาลด้วย ส่วนด้านการจราจร เชื่อว่าประชาชนที่ทราบข่าว ส่วนใหญ่จะเลี่ยงเส้นทางหน้าศาลอยู่แล้ว และตำรวจก็มีการจัดการอยู่แล้ว จึงน่าจะดูแลได้แต่หากผู้ชุมนุมจะปิดถนนนั้น ต้องดูเหตุผลก่อน หากไม่มีเหตุอันควร ก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน