สถานการณ์การเมืองสัปดาห์นี้ แรกทีเดียวคาดกันว่า น่าจะวนเวียนอยู่กับเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายพรรคเพื่อไทยพยายาม "เลี้ยงกระแส" เพราะคาดการณ์ด้วยเช่นกันว่า ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นการยกร่างขึ้นมาใหม่หรือไม่ในวันที่ 6 หรือ 7 กรกฎาคมนี้เลย
กระแสปลุกเสื้อแดงที่เวทีนั่นนี่ หลายจังหวัดจึงเกิดขึ้นถี่ยิบ ส่งเสียงคำรามลั่นว่า นี่คือ ความต้องการของประชาชนที่จะแก้รัฐธรรมนูญ
แต่พอศาลรัฐธรรมนูญออกมาลดแรงกระแทก ด้วยการบอกว่า วันที่ 5-6 กรกฎาคม นี่ยังไม่ใช่วันชี้ชะตาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรอก เพราะนี่แค่เริ่มสืบพยานทั้งของผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง
เวทีเสื้อแดงที่จินตนาการยาวไปถึงว่า อาจจะถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทย เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่า ถ้าพรรคการเมืองใดไปสนับสนุนให้ทำอย่างนั้น ก็เลยต้องลดดีกรีความแรงลง เดี๋ยวถูกว่าเอาได้ว่า "ตีตนไปก่อนไข้"
แต่ก็เผอิญที่ "ตู่" จตุพร พรหมพันธุ์ ที่เพิ่งหลุดจากเก้าอี้ ส.ส. เพราะไม่ได้ไปเลือกตั้ง แล้วยังจะต้องลุ้นในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ว่า ศาลอาญาจะเห็นด้วยกับคำร้องของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญให้ถอนประกัน...ก็เลยไปกันใหญ่
เวทีเสื้อแดงที่เข้มในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว มาเจอเรื่อง "ส่วนตัว" ของ จตุพร เข้าไปอีก ก็เลยถูกอกถูกใจบรรดาเสื้อแดงคอการเมืองทั้งหลาย
ยิ่งฟังน้ำเสียงการปราศรัยของ จตุพร ด้วยแล้ว ความรู้สึกถึงเรื่องการปรองดองดูมันจะเลือนรางห่างไกลเหลือเกิน เพราะความรู้สึกว่า ถูกกระทำย่ำยี มันมีมากกว่า
บรรยากาศบนเวทีที่จตุพร ขึ้นปราศรัย บางคนฟังแล้วก็อาจจะต้องไปปรึกษามาเฟีย ขาใหญ่ทั้งหลายว่า นี่มัน "คำขู่" หรือ "เงื่อนไข" หรือ "คำสั่ง" ที่ต้องทำสถานเดียวกันแน่
เรื่องร้อนที่จะร้อนจริงๆ ก็คงจะราวปลายเดือน ที่ต้องชัดเจนแล้ว่า ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ นั้นจะเอาอย่างไร
ระดับ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา พูดแล้วมีน้ำหนักแค่ไหน ?
สมศักดิ์ เกรงว่า ผลการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ จะนำมาซึ่งสิ่งที่ตรงกันข้ามกับชื่อของกฎหมาย ก็เลยอยากให้ถอน แต่เจ้าของร่างกับท่าทีล่าสุดของ ส.ส.เพื่อไทย กลับอยากให้เดินต่อไป แต่นั่นไม่น่าจะใช่ดัชนีชี้วัด เพราะเรื่องนี้ต้องจับอาการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวเท่านั้นว่า "เอาไง"
วงในแล้ว แดงซ้ายอยากให้เดินเครื่องเต็มสูบ เพื่อจะได้เช็กบิล "อำมาตย์" ที่ต่อสายสะดือไปถึง "ตุลาการภิวัฒน์" ให้รู้แล้วรู้รอด แต่กลุ่มผู้อาวุโสเครือญาติกลับไม่เห็นด้วยกับแนวทางนั้น
แต่เรื่องที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังลังเลอยู่ก็คือ เรื่องคนในที่หากยังเป็นอยู่แบบนี้ การลุยแบบไร้ขีดจำกัดก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้
"คนใน" ที่ว่านั้นก็ไม่ได้มาจากใครที่ไหน "แดงซ้าย" นั่นแหละคือคนกระซิบว่าให้ระวัง เพราะแผน "ยึดพรรค" ยังดำรงจุดมุ่งหมายอยู่
สิ่งที่ ขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแดงอุดรฯ ที่ปูดข่าวว่า เสธ.หนั่น กับทหารใหญ่ไปสุมหัวกันที่ โบนันซ่า เขาใหญ่ ของไพวงษ์ เตชะณรงค์ ซี้ปึ้ก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ที่ตอนนี้ได้คุม กทม. สมใจแล้ว ก็ใช่ว่า จะไม่มีที่มาที่ไป และข่าวนี้ก็ทำให้ "ลูกยอด" ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ ลูกชายเสธ.หนั่น ไม่ค่อยสบายอกสบายใจนัก โดยเฉพาะในช่วงประชุม ครม. เพราะข่าวลือหนาหูว่า ข้อมูลการประชุมตกถึงมือ พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคลิปเสียง ทั้งเอกสาร ทั้งที่ลูกยอด ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย
จะว่าไปแล้วสถานการณ์ก่อนที่จะถึงวันเปิดประชุมสภามันค่อยๆ ขมวดปมเข้าไปทุกขณะ
แต่ก็น่าสังเกตว่า ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในตอนนี้เงียบเชียบ
ระดับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วไม่มีใครเชื่อหรอกว่า เพื่อรอชะตากรรม แน่ๆ