วันนี้ (1 ก.ค.) ที่โรงแรมอุดรโฮเต็ล จ.อุดรธานี แกนนำกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อาทิเช่น พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พิภพ ธงชัย ดร.ณรงค์ โชควัฒนา สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ และประพันธ์ คุณมี ได้เดินทางมาร่วมเสวนาในเรื่อง “ร่วมปฏิรูปประเทศไทย เพื่อหยุดการเมืองเลว” โดยมีสมาชิกกลุ่มคนเสื้อเหลืองและประชาชนทั่วไป ตลอดทั้งชาวเวียดนาม สัญชาติไทย เชื้อสายเวียดนาม ที่เกิดในจังหวัดอุดรธานี เดินทางมาร่วมในครั้งนี้
โดยแกนนำได้กล่าวถึงปัญหาสินค้าราคาแพง รัฐบาลแก้ไขไม่ได้ นอกจากนั้น ได้พูดถึงเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยเปรียบเทียบประเทศอินเดียที่มีคนจำนวนมาก ฐานะยากจน แต่เวลาเลือกตั้งทุกครั้ง เขารับเงินแต่เขาจะไม่เลือกผู้ซื้อเสียง ซึ่งไม่เหมือนกับเมืองไทย ที่คนจำนวนประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่เข้าใจเรื่องของประชาธิปไตย ถ้าเขารู้ว่าเขารักบ้านรักเมือง เขาจะไม่รับเงิน สำหรับปัญหาเรื่องการขอใช้สนามบินอู่ตะเภาขององค์การน่าซ่านั้น มันอาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝง ซึ่งในประวัติศาสตร์เคยมีมาให้เห็นแล้ว ตั้งแต่ในสมัยสงครามเวียดนาม ที่สหรัฐอเมริกาเคยใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพแล้วขนระเบิดและสารเคมีหรือฝนเหลือง ไปฆ่าประชาชนเพื่อนบ้านเสียชีวิต และพิการเป็นจำนวนมาก จึงต้องให้รัฐบาลพิจารณาในเรื่องนี้ ก่อนที่จะให้ต่างชาติเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาอีก
ในวันเดียวกัน ที่บริเวณสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ทางกลุ่มคนเสื้อแดง โดยสมาชิกชมรมคนรักอุดร กว่า ได้เดินทางมาฟังการกล่าวปราศรัยของแกนนำ นปช. และ ส.ส.เพื่อไทย และบุคคลสำคัญภายในพรรค อาทิ นายกอบแก้ว พิกุลทอง แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม โดยได้ชี้แจงการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 และกฎหมายการปรองดอง ที่ขณะนี้ถูกกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามกุข่าว สร้างกระแสทางการเมืองให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพื่อหวังต้องการให้รัฐบาลได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อการบริหารบ้านเมือง ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยทางแกนนำประกาศบนเวทีว่าจะไม่ยอมยุติการปราศรัย แม้ฝนจะตกก็ตาม เพราะว่าแกนนำบางส่วนทั้งนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ ก็จะเดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่คนทั้งสองกลุ่มได้เดินทางมาเปิดเวทีทางการเมืองครั้งนี้ที่ จ.อุดรธานี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังมารักษาความสงบเรียบร้อยเป็นจำนวนมาก เกรงจะมีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ จึงต้องเข้มงวดกวดขันกับผู้ที่จะเดินทางไปร่วมในการชุมนุมครั้งนี้เป็นพิเศษ