ทีมข่าว นปช.
1 กรกฎาคม 2555
วิภูแถลง พัฒนภูมิไท, แกนนำ นปช. และ ส.ส.เพื่อไทย ร่วมงาน "เพื่อไทยพบประชาชน" ณ ศาลากลาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2555
วิภูแถลง อัด ปชป. ที่อ้างว่า "พวกมากลากไป" ทั้งที่ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่เสียงของประชาชนเป็นใหญ่ เย้ย 80 ปีมีแต่ "อนุสาวรีย์" แต่ยังไม่มีประชาธิปไตย
วิภูแถลง ยืนยันว่า ประชาชนเลือก พท. เพื่อให้มาแก้ไข รธน. เหน็บ ปชป. ทำตัวเป็น "ไดโนเสาร์" เพราะก่อความวุ่นวายในรัฐสภา
จักริน พัฒน์ดำรงจิตร (ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย) กล่าวว่า รัฐบาลจะยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มที่ต่อไป ท่ามกลางกระแสกดดัน และการหาช่องทางเพื่อท้วงติงการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไปอย่างน้อย 3 สมัย รวม 12 ปี เพื่อที่จะขับเคลี่อนนโยบายการบริหารประเทศ และดำเนินการนโยบายต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ได้อย่างครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
ขวัญชัย ไพรพนา กล่าวว่า แม้หลายฝ่ายจะมองว่ารัฐบาลยอมที่จะถอยจากการไม่ตอบโต้ หรือต่อสู้ทางวาทะ หรือการคล้อยตามกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนหลายฝ่ายกังวลใจว่า รัฐบาลเริ่มสั่นคลอน แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ถือเป็นการยอมถอยเพื่อแนวทางแห่งการปรองดองที่ชัดเจนที่สุด เพราะหากยังคงมีการตอบโต้ หรือต่อสู้กับผู้ที่คัดค้านด้วยวิธีหนึ่งวิธีใด การเดินหน้าเพื่อสร้างความปรองดองให้ประเทศกลับเข้าสู่สภาวะปกติเป็นไปได้ยาก
จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า การเปิดเวทีพรรคเพื่อไทย พบประชาชน รวม 30 เวทีในวันนี้ ถือเป็นการทำงานเชิงรุกที่ชัดเจน และการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองที่พรรคต้องการคงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งต่อไปในการเปิดเวที่ที่ภาคใต้แกนนำของพรรค และ นปช. จะขึ้นเวทีปราศรัยกันทั้งหมดเพื่อสร้างความมั่นใจ และแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน
การพิจารณาไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 5-6 ก.ค. นี้ อาจจะเป็นไปได้ที่การพิจารณาตัดสินจะรวดเร็วเช่นเดียวกันกับกรณีของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะศาลรัฐธรรมนูญในองค์คณะนั้นส่วนหนึ่งมาจาก ส.ส.ร. ในปี 2550 ทำให้ความไม่มั่นใจการพิจารณาครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยนั้นมีมาก แต่ถึงอย่างไร ตนเองก็พร้อมที่จะน้อมรับคำสั่งศาลและยอมติดคุกหากมีคำพิพากษาออกมาอย่างหนึ่งอย่างใด แต่การต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยของคนเสื้อแดงจะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดเวทีพรรคเพื่อไทยพบประชาชนนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้คำมั่นสัญญาร่วมระหว่างแกนนำกลุ่ม นปช. คนเสื้อแดง และกลุ่ม ส.ส. ของพรรค ในการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันรักษารัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณฺ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศต่อไปจนอยู่ครบวาระ การต่อสู้กับระบบอยุติธรรมในทุกรูปแบบและการรักษาระบอบประชาธิปไตยของไทยไว้จนกว่าชีพจะหาไม่
เพราะในขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์ เริ่มกังวลใจ และไม่มั่นใจในแนวทางการทำงานที่ชัดเจนของพรรคเพื่อไทย จนเกิดการกล่าวหา และโจมตีของพรรคประชาธิปัตย์ด้วยการพยายามเปิดเวทีคู่ขนาน และโจมตีการทำงานของรัฐบาลเช่นกัน โดยเฉพาะกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ยังคงทำตัวเป็นเหมือนคางคก คอยนั่งจิกนั่งกินแมลงต่างๆ ตามที่ตนเองต้องการ และพยายามที่จะหลอกอำมาตย์ด้วยการต้มจนเปื่อยเพื่อผลประโยชน์ต่อตนเอง และพวกพ้องบางกลุ่มเท่านั้น
