'แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี' ชี้ 'ทักษิณ' เคลื่อนไหว กระทบรัฐบาล-ปรองดอง ด้าน 'เทพไท' อัด 'ทักษิณ' วิจารณ์คำตัดสินศาล รธน.
21 ก.ค. 55 นายประสาร มฤคพิทักษ์ แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับสื่อต่างประเทศ ระบุถึงคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นอุปสรรคต่อการเจรจาเพื่อเดินทางกลับเมืองไทย ว่า เป็นการตอกย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากกลับประเทศไทย โดยไม่ต้องรับผิด หรือรับโทษ ซึ่งคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้ทำประชามติก่อนเริ่มแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณมองว่าเป็นความยุ่งยาก ดังนั้นการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการสะท้อนว่าเขาตกอยู่ในสภาพยักตื้นติดกึ๊ก ยักลึกติดกัก จะเดินหน้า หรือถอยหลัง ก็ลำบาก และอยู่นิ่งก็ไม่ได้
"คุณทักษิณเขากำลังเล่นไพ่หลายหน้า ทั้งพยายามสร้างพลังต่อรอง โดยใช้กองทัพคนเสื้อแดงหนุนหลัง ทั้งกระบวนการในรัฐสภา ต่อการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงออกพ.ร.บ.ปรองดอง และไพ่ของการประคองรัฐบาลน้องสาว ดังนั้นการเดินเกมจึงเป็นไป 2 แนวทาง คือแข็งกร้าว โดยใช้มวลชนเสื้อแดงขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไปราวีพรรคประชาธิปัตย์ ที่เขามองว่าเป็นอุปสรรค และแนวทางยืดหยุ่น โดยวิธีการที่คุณทักษิณใช้ ผมมองว่าไม่ได้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อรัฐบาล และประเทศในเรื่องการแก้ปัญหาความแตกแยก" นายประสาร กล่าว
'เทพไท' อัด 'ทักษิณ' วิจารณ์คำตัดสินศาล รธน.
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อสิงคโปร์ วิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าทำเกินขอบเขตกฎหมาย ว่า เป็นพฤติกรรมซ้ำซากของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่พยายามใส่ร้ายและดิสเครดิตกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ตราบใดที่ไม่สามารถแทรกแซงกระบวนการยุติอธรรมได้ หรือคำตัดสินไม่เป็นคุณกับฝ่ายตัวเอง ก็จะออกมา ใส่ร้าย พาดพิงอยู่เสมอ ซึ่งคำตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในเบื้องต้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้ความเห็นผ่านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย ว่ายอมรับได้กับคำพิพากษา แม้จะไม่ถูกใจทั้งหมดก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคพวก ก็คงจะมาไตร่ตรอง และคิดเกมการเคลื่อนไหวต่อ เมื่อเห็นว่าคำวินิจฉัยเป็นอุปสรรคในการผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตัวเอง จึงออกมาตำหนิการทำงานของศาลผ่านสื่อต่างประเทศ
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนข้อเรียกร้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะให้เกิดความปรองดอง โดยอ้างว่าเป็นคนไทยด้วยกันน่าจะพูดภาษาไทยให้เป็นที่เข้าใจกันได้นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ควรเอาเปรียบสังคมไทย เพราะคนไทยทุกคนยินดีที่จะพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าใจหลักนิติรัฐของบ้านเมืองหรือไม่ ใช่ว่าเป็นคนไทยพูดภาษาไทยแล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้หากไม่เคารพกฎหมายไทย คนไทยทั้งประเทศก็ไม่สามารถยอมรับได้ ทางที่ดี พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือการเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะทำให้ตัวเองพ้นผิดแล้วมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม การจะขออภัยโทษหรือนิรโทษกรรม ก็ควรทำไปตามขั้นตอนของกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษที่ถูกศาลสั่งจำคุกไม่มีสิทธิ์พิเศษเหนือนักโทษคนอื่นใด ถ้ายังดึงดันที่จะแก้กฎหมายเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดเพียงคนเดียว คนไทยทั้งประเทศ ก็ไม่สามารถยอมรับได้
นายเทพไท กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จให้จงได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็จะเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็จะเอาด้วยคาถา เชื่อว่าขณะนี้เมื่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญติดกับดักคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งการทำประชามติและการแก้ไขยกร่างใหม่ทั้งฉบับ พรรคเพื่อไทยจะมีแผนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ขั้นตอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการ คือขั้นตอนที่1 จะแก้ไขเป็นรายมาตราและจะแก้ไขเฉพาะมาตราที่เป็นอุปสรรคต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเช่น มาตรา 68 วรรค 2 และมาตรา 165 วรรค 2 เพื่อขจัดเสี้ยนหนามให้หมดสิ้นเสียก่อน ขั้นตอนที่ 2 เมื่อมีการแก้ไข มาตรา 68 และ 165 แล้วก็จะมีการเสนอการทำประชามติเพื่อให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งสามารถผลักดันให้ประสบความสำเร็จได้โดยปราศจากอุปสรรคใดๆ
“เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่มีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในหลายๆมาตรา เพราะจะทำให้กระบวนการแก้ไขต้องใช้เวลายาวนาน จนไม่สามารถที่จะกำหนดความสำเร็จของการแก้ไขได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถรอคอยการแก้ไขในลักษณะดังกล่าวได้ เพราะเป้าหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ คือการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จ เพื่อแข่งกับอายุของรัฐบาลชุดนี้ ที่ไม่มีความแน่นอนว่าจะอยู่ครบวาระหรือไม่” นายเทพไท กล่าว