วิทยุแดงเฮลั่น ! หลังรู้คำวินิจฉัย

คมชัดลึก 13 กรกฎาคม 2555 >>>




"วิทยุชุมชนแดง" เฮลั่น ! หลังรู้คำวินิจฉัยศาล รธน. ขณะที่ "วรเจตน์" จวกศาล รธน. เพิ่มเติมการแก้ รธน. ขึ้นเอง หลังบอกต้องทำประชามติ "อุดมเดช" เตรียมหารือพรรคร่วมแก้รายมาตรา

เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 13 ก.ค. 2555 ภายหลังจากที่กลุ่มเครือข่ายวิทยุชุมชนปกป้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรม (ควปธ.) ซึ่งปักหลักอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ได้ทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่างก็โห่ร้องแสดงความยินดี และร้องรำทำเพลง  ทั้งนี้แกนนำได้ประกาศให้ผู้ร่วมชุมนุมรอฟังท่าทีในตอนเย็น เกี่ยวกับการยกระดับขับไล่ศาลรัฐธรรมนูญ

เสื้อแดงเชียงใหม่-อุดรฯเฮลั่นเช่นกัน

ขณะเดียวกันคนเสื้อแดงกลุ่มแดงอิสระที่รวมตัวบริเวณลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่  ได้ติดตามชมการถ่ายทอดสดการแถลงปิดคดีของศาลรัฐธรรมนูญพากันตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ เช่นเดียวกับที่อาณาจักรคนเสื้อแดง สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เมกกะเฮิร์ต บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง สมาชิกชมรมคนรักอุดรจำนวน 20 คน ได้เดินทางมาร่วมรับฟังการอ่านคำวินิจฉัย เมื่อผลออกมาว่า ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่ให้แก้ไขเป็นรายมาตรา และไม่พิจารณาการยุบพรรคเพื่อไทย ต่างพากันโห่ร้องด้วยความยินดี และต่างพูดคุยถึงชัยชนะในครั้งนี้

เสื้อแดงโคราชเฮวอนทุกฝ่ายอย่าต่อต้าน

ส่วนบรรยากาศที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยจังหวัดนครราชสีมา ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีประชาชนประมาณ 30 คน ต่างพากันโห่ร้องแสดงความยินดีกันอย่างครื้นเครง ด้วยความดีใจ ที่พรรคเพื่อไทยที่ตนเองสนับสนุนรอดพ้นจากคำกล่าวหาเช่นกัน

อดีต ปธ. ชมรม สสร.50 ชี้สภาต้องทบทวนการแก้ไข รธน. หากจะลงมติวาะ 3

นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตประธานชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 กล่าวว่า หลังจากนี้สภาต้องมีการหารือกันให้แน่นอนว่า จะเดินหน้าต่อหรือจะหยุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเดินหน้าสภาต้องระมัดระวังว่าการกระทำจะขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยหากตัดสินใจเดินหน้าลงมติวาระ 3 คณะกรรมาธิการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนว่าเป็นแก้ไขรายมาตราถึงจะกระทำได้ ในขณะนี้ตนเห็นว่า ยังมีเวลาที่จะทบทวน เพราะไม่รู้ว่าการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจะไปยกร่างทั้งฉบับหรือไม่

"วรเจตน์" จวกศาล รธน. เพิ่มเติมการแก้รัฐธรรมนูญขึ้นเอง

นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำนิติราษฎร์ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีว่า ตนรู้สึกว่าตรรกะในคำวินิจฉัยก็ขัดกันเอง ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่อยู่ในเขตอำนาจที่ศาลจะรับพิจารณา เรื่องนี้เป็นเรื่องอำนาจไม่ใช่เรื่องสิทธิเสรีภาพ จึงไม่ชอบที่จะรับตีความหากเป็นอย่างนี้ต่อไป บุคคลก็จะยื่นต่อศาลโดยอาศัยมาตรานี้ตลอดเวลา
   "เรื่องนี้จะเป็นปัญหาตีความเพราะสุดท้ายศาลบอกยกคำร้อง และบอกว่าการแก้รัฐธรรมนูญควรทำประชามติ เราไม่รู้ว่าคำวินิจฉัยผูกพันแค่ไหนต่อรัฐสภา เพราะเป็นเหมือนคำแนะนำ เรื่องนี้อยู่ที่สภา เพราะวาระสามยังค้างอยู่เพราะไม่ตกไป ศาลไม่ได้บอกว่าห้ามลงมติวาระสาม เหตุผลที่คำวินิจฉัยคลุมเครือเพราะศาลตั้งประเด็นไม่ดี ศาลไม่ได้ตั้งจาก ม.68 แต่ไปตั้งประเด็นเรื่อง ม.291 ตกลงศาลสั่งตามอะไรสั่งตาม 68 ก็ต้องสั่งเลิกกระทำ แต่ตอนนี้ศาลกำลังบอกให้ไปทำประชามติ" นายวรเจตน์ กล่าว

"จาตุรนต์" ฝืนรับคำวินิจฉัย “ศาล รธน.”

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า วินิจฉัยอย่างไรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตาม ซึ่งเป็นหลักตามรัฐธรรมนูญ แต่คำว่ายอมรับเป็นคนละเรื่อง ไม่จำเป็นต้องยอมรับ และไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย เพราะศาลรัฐธรรมนูญทำในสิ่งที่ ขัดรัฐธรรมนูญเต็มไปหมดเลย แล้วจะให้ยอมรับได้อย่างไร คนที่ไม่ยอมรับและไม่เห็นด้วย ก็สามารถจะยื่นถอดถอน ศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตาม แต่เมื่อระบบเป็นอย่างนี้ก็ต้องปฏิบัติตาม ทั้งๆที่เราไม่เห็นด้วย เช่น เหมือนอย่างที่รัฐบาลไทยไปขึ้นศาลโลก กรณีปราสาทพระวิหาร รัฐบาลไทยบอกว่าต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลก แต่ไม่ยอมรับคำตัดสิน เพื่อเอาไว้คัดค้านหรือเพื่อเอาไว้ดำเนินการไหนก็ตาม ในกรณีนี้ คือ ต้องปฏิบัติตามถ้าสั่งให้หยุดก็ คือ หยุดแต่ไม่เห็นด้วยไม่ยอมรับได้

"อุดมเดช" เตรียมหารือพรรคร่วมแก้รายมาตรา

นายอุดมเดช กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังคงต้องเดินหน้าต่อ แต่จะเป็นการแก้ไขเพียงบางประเด็นเท่านั้น ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสาม ที่ค้างอยู่ในระเบียบวาระนั้น ถือว่าเป็นอันตกไปตามวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และหมายความว่ากระบวนการเกิดของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะไม่เกิดขึ้น ส่วนแนวทางการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญนั้น จากนี้ไปจะมีการเรียกประชุม ส.ส. ในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหารือถึงทิศทางและกำหนดกรอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดวัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ที่จะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 291 ไปทำประชามติจากประชาชน นายอุดมเดช กล่าวยืนยันว่าไม่มีช่องทางดังกล่าวอย่างแน่นอน เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดแล้วว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ซึ่งเพิ่มหมวดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่สามารถทำได้ แต่หากจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องผ่านการลงประชามติจากประชาชนก่อนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินสถานการณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดงต่อคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ นายอุดมเดช กล่าวว่าตนไม่ทราบ แต่ในประเด็นคำพิจารณาของศาลนั้น เชื่อว่าจะมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจ สำหรับคนที่ไม่พอใจไม่สามารถประเมินความเคลื่อนไหวได้ ส่วนกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเป็น ส.ส.เพื่อไทย เคยแถลงว่าจะออกมาเคลื่อนไหวหลังจากที่ศาลนั้น ตนยืนยันว่าแกนนำคนเสื้อแดงไม่เคยระบุชัดเจน

“เพื่อไทย” ให้สภาฯตัดสินใจหลังศาลชี้ต้องทำประชามติ

เมื่อเวลา 15.30 น. ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลวินิจฉัยต้องทำประชามติก่อนนั้น ร.ท.หญิง สุณิสากล่าวว่า จากนี้เป็นเรื่องของสภาฯ ที่จะมีการพิจารณาร่วมกันว่าควรที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่อย่างน้อยขณะนี้ประเทศก็สามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะถ้าหากมีการตีดสินให้ยุบพรรคอีกประเทศก็จะต้องกลีบมาย่ำอยู่กับที่อีก

ปชป.-เสื้อหลากสีจี้ รบ. ยอมรับคำวินิจฉัยศาล

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ร้องลงจากห้องพิจารณาด้วยสีหน้าปกติโดยกล่าวว่า พอใจกับคำวินิจฉัย และตรงกับตามที่คาดการณ์ไว้  ส่วนการที่ศาลพิจารณาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่เป็นการล้มล้างการปกครอง ตนยังไม่อยากแสดงความเห็นอะไร
ขณะที่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวในประเด็นเดียวกันว่า ต้องเคารพศาล และจะรอดูการดำเนินการต่อไปของรัฐบาล ขณะนี้หากรัฐบาลยังยืนยันจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องทำเป็นรายมาตราเท่า