Facebook นพ.เหวง โตจิราการ 27 กรกฎาคม 2555 >>>
วันนี้ (27 ก.ค. 2555) นพ.เหวง โตจิราการ ตั้ง 3 คำถามถึงประชาชนกรณี ปปช. ชี้ขาด สุเทพ เทือกสุบรรณ ผิด รธน. ม.268, ส.ส.ปชป. ตอบโต้ รมว.กลาโหม กรณีแถลงการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคำวินิจฉัยกลางของตุลาการ รธน. ดังนี้
เพื่อนๆครับ ผมขอชวนเพื่อนแลกเปลี่ยนความเห็นกันสัก 3 เรื่องนะครับ
1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกชี้ขาดจาก ปปช. ว่ามีความผิดตาม รธน. ม.268 ประกอบ ม.261 (1) ว่าก้าวก่ายแทรกแซงข้าราชการเพื่อประโยชน์ของตนเองผู้อื่นหรือพรรคการเมืองไม่ทางตรงก็ทางอ้อม จากเรื่องที่เขาทำหนังสือไปถึงกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อส่ง ส.ส.ปชป. 19 คนไปช่วยงานกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 52 ซึ่งทางกระทรวงวัฒนธรรมเองก็ปฏิเสธกลับมาอย่างไม่เกรงใจเมื่อ 2 มี.ค. 52 จนสุเทพต้องไปถอนเรื่องคืน 3 มี.ค. 52 ปปช. ฟันธงเปรี้ยงว่าเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงราชการเพื่อประโยชน์ของตนเองผู้อื่นพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่ใช่เป็นการปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานไปตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา
แม้ ปปช. จะเป็นพวกเดียวกับ ปชป. กับสุเทพ แต่เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้นชัดเจนมากจนไม่อาจจะหลบเลี่ยงเบี่ยงเบนเป็นอื่นๆได้ จึงต้องออกมาดังกล่าว คราวนี้ก็ต้องส่งไปยัง ส.ว. ครับ
เพื่อนๆลองคาดเดากันดูนะครับว่า ส.ว. จะถอดถอนสุเทพหรือช่วยสุเทพให้หลุด ก็มีได้สองทางเท่านั้นครับ สำหรับผมคิดว่า เป็นผลดีทั้งสองทางครับ คือ ถ้าถอดถอนสุเทพและตัดสิทธิการเมืองห้าปีก็เป็นเรื่องที่ต้องเป็นไปตามกรรมครับ เพราะสุเทพวางอำนาจบาตรใหญ่มากในเรื่องนี้ และประจานให้เห็นว่า ปชป. ก็ไม่ใช่ผู้มีจริยธรรมคุณธรรมแต่อย่างไร ไม่งั้นเอาคนอย่างสุเทพมาเป็นเลขาธิการได้อย่างไร เอามาเป็นรอง นรม. ได้อย่างไร และนี่ยิ่งทำให้มองเห็นชัดขึ้นว่าทำไมจึงมีการฆ่าประชาชนอย่างอำมหิตในคราวเดือนเมษา-พฤษภา53 "คนที่ชอบลุแก่อำนาจตัวเองวางอำนาจบาตรใหญ่ ย่อมเป็นธรรมดาที่เขาต้องใช้โทสะจริตในการแก้ปัญหาย่อมเป็นธรรมดาที่เขาย่อมต้องการเข่นฆ่าทำลายล้างปรปักษ์ให้พินาศวอดวายลงไป”
แต่หาก ส.ว. ปล่อยสุเทพ ผมว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ ประชาชนจะมอง ส.ว. อย่างไร เป็นผู้รับใช้ ปชป. รับใช้สุเทพใช่หรือไม่ สมควรจะมี ส.ว. ลากตั้งอยู่อีกต่อไปหรือไม่ ดีไม่ดีอาจจะเลยเถิดไปจนต้องถามว่าแล้ว ส.ว. มีไว้เพื่อประโยชน์อะไร ?
2. เรื่องที่ รมต.กลาโหม ยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะใช้เอกสารเท็จในการสมัครเข้ารับราชการทหาร ยังไม่ทันไร วอลเปเปอร์ก็ออกมาช่วยเจ้านายของเขาว่า รมต.กลาโหม กล่าวเท็จ เรื่องนี้ ผมเรียกร้องให้ รมต.กลาโหม ต้องบังคับใช้กฏระเบียบของราชการทหารอย่างเข้มงวดต่อนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะทันทีครับ เช่นต้องถอดยศถอดตำแหน่งคืน ต้องเรียกเบี้ยหวัดเงินเดือนทั้งหมดคืน และต้องทำเรื่องประกาศ (ประจาน) ให้คนไทยทั้งประเทศเขารู้ว่านายอภิสิทธิ์ใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการทหารครับ ไม่งั้นตัวท่าน รมต. เองต้องรับผิดชอบในการแถลงของท่านเอาเองนะครับ
ผมเองก็ต้องเชื่อ รมต.กลาโหม เพราะท่านเป็นผู้บังคับบัญชากระทรวงทั้งกระทรวงและเรื่องนี้เป็นเรื่องของกลาโหมโดยตรง กลาโหมต้องรู้ความเป็นจริงทั้งหมดเป็นอย่างดี ผมเชื่อว่าเป็นความจริง ผมก็ต้องเชื่อต่อไปว่า อภิสิทธิ์จงใจที่จะปกปิดเรื่องนี้ต่อคนไทยประเทศไทยทั้งประเทศมาเป็นเวลากว่า 20 ปีครับ คนที่ทำเรื่องเท็จไว้และปกปิดคนไทยทั้งประเทศโดยที่ตัวเขาเป็นนักการเมืองเป็นรัฐบาลเป็น นรม. มาแล้วเป็นเวลากว่า 20 ปี โอ้โห ไม่น่าเชื่อเลยว่า เขาไม่รู้สึกรู้สาในความเลวของเขาแม้แต่น้อย ปชป. ทั้งพรรคจะคิดอย่างไรบ้างครับ ยังจะปกป้องคนอย่างนี้อยู่ต่อไปหรือเปล่า หรือควรจะไล่คนนี้ออกจากพรรคเลย อย่าว่าแต่ไล่ออกจากหัวหน้าพรรคเลยครับ
เพื่อนๆช่วยกันคิดหน่อยนะครับว่า สังคมไทยควรลงโทษเขาอย่างไร ควรเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขาอย่างไรบ้างครับ
3. คำวินิจฉัยกลางของศาล รธน. ก็เหมือนกับที่พวกเขาแถลงในวันศุกร์ที่ 13 ก.ค. 55 นั่นแหละ ผมเคยเขียนไปแล้วว่าทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยขวัญกระเจิงถึงขั้นขวัญหนีดีฝ่อกันเลยนะครับ ตอนนี้ตั้งสติเรียกขวัญกลับมาได้แล้วหรือยังไม่รู้ คำวินิจฉัยที่ชี้ขาดนั้นอยู่ที่บันทัดสุดท้ายครับว่า “ยกคำฟ้องทั้งห้าคำฟ้อง” ครับนั่นแปลว่าเสมือนหนึ่งไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย
ดังนั้นผมยืนยันว่า เดินหน้าวาระ3ไปเลยครับ ไม่ต้องขลาดกลัวว่า จะถูกถอดถอน ตัดสิทธิ 5 ปี รัฐบาลจะล้ม การประชุมจะไม่ครบองค์ ญัตติจะถูกคว่ำ ฯลฯ
สมาชิกรัฐสภาต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองครับ ศาล รธน. เองก็ต้องผูกพันธ์กับคำวินิจฉัยของตนเองนะครับ ในเมื่อคุณเองตัดสินว่าไม่ได้ละเมิด รธน. ก็แปลว่า เดินวาระ 3 ต่อได้ หากมีใครไปร้องเช่นเดิม คุณก็ต้อง ยืนยันในการตัดสินของคุณนะครับ เพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้สักนิด ไม่ได้เติมตัดแก้ไขอะไรแม้แต่ตัวอักษรเดียวแล้วคำวินิจฉัยจะเปลี่ยนได้อย่างไร
รัฐสภาต้องรักษาระบอบประชาธิปไตยที่โดนทำให้ทรวดเซโดย ตลก.รธน.ไปมากพอควรนะครับ ที่ชัดเจนก็คือ การประชุมวาระ 3 ในวันที่ 5 ก.ค. 55 ต้องหยุดไปโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ศาลเองก็ขยายเขตอำนาจของตนโดยพละการ
ศาลเองไปตั้ง "อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ" เอาเองว่าประชามติ 50 เป็นอำนาจสถาปนา รธน. ทั้งที่ ประชามติ 50 เป็นประชามติในระบอบเผด็จการภายใต้อำนาจปากกระบอกปืนหรือเผด็จการทหารทรราชย์ แล้วนี้จะนับเป็นอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้หรือครับ
ถ้าจะตั้ง "อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ” ขึ้นมา ผมคิดว่าต้องระบุชัดว่า “เป็นประชามติภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ใช่ภายใต้ปากกระบอกปืนครับ” เมื่อเป็นประชามติภายใต้กระบอกปืนแล้วเราจะไปยอมรับนับถือได้อย่างไร
จึงขอเรียกร้องให้เดินหน้าวาระ 3 เลยครับ อย่างน้อยก็ทำให้หลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้องได้รับการก่อตั้งกลับคืนมา ทำให้ศาล รธน. ต้องกลับไปอยู่ในเขตแดนที่ถูกต้องของตนเองเสียที