"เหลิม" แจง ผู้รับผลกระทบ "แดง" ชุมนุม 6 หมื่นราย ชี้ เร่งเยียวยากรณี ตาย-เจ็บ ก่อน

มติชนออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2555 >>>




ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 16 กรกฎาคม 2555 เล่ม 129 ตอนพิเศษ 112 ง หน้า40 ได้เผยแพร่ กระทู้ถามที่ 427 ร. เรื่อง มาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีสถานการณ์ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม  2553  ซึ่งมีใจความสำคัญว่า
จากสถานการณ์ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ก่อให้เกิดความสูญเสียทรัพย์สินมีมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก ทำให้ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลมีการสำรวจตรวจสอบทรัพย์สินที่เสียหายจากกรณีสถานการณ์ดังกล่าวหรือไม่ และมีมูลค่าความเสียหายเท่าใด รวมถึงมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการนักธุรกิจ แม่ค้าหาบเร่ แผงลอย และผู้เสียหายอื่น ๆ จะดำเนินการอย่างไร
ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2553 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยด้านการฟ้องคดี โดยมอบหมายให้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รับผิดชอบดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยการออกหน่วยยุติธรรมเคลื่อนที่เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์ จำนวน 4,153 เรื่อง
พร้อมทั้งได้ประสานส่งข้อมูลคำขอรับความช่วยเหลือไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพร่วม (คปภ.) พบว่า มีผู้ประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง จำนวนทั้งสิ้น 739  กรมธรรม์ โดยมีผู้เอาประกันภัยยื่นขอความช่วยเหลือต่อ คปภ. รวมจำนวนทั้งสิ้น 116 กรมธรรม์
และจากข้อมูลเพิ่มเติมของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทราบว่า ทรัพย์สินที่เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งได้แก่ ร้านค้าหรือทรัพย์สินถูกเพลิงไหม้ ถูกโจรกรรม ถูกทำลายผู้ประกอบการและลูกจ้างได้รับผลกระทบจากการชุมนุม นั้น ได้สำรวจโดยให้ผู้ได้รับผลกระทบแจ้งข้อมูลและลงทะเบียน ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 64,789 ราย และส่วนใหญ่ได้มีการช่วยเหลือเยียวยาแล้ว โดยรัฐบาลได้กำหนดให้การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตยเป็นนโยบายเร่งด่วนจึงได้เร่งรัดการเยียวยาความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย เป็นลำดับแรก และจะเยียวยาความเสียหายในลักษณะอื่นให้เกิดความเหมาะสมด้วยความรวดเร็วในลำดับต่อไป