"มาร์ค" ยันไม่ใช่มีแค่ “เทือก” แต่มีพรรคใกล้ชิดก็โดนทาบร่วมรัฐบาล ย้อนถามใครกันแน่บิดเบือน ใช้พวกมากขู่ยึด กทม. ซ้ำ พร้อม ฉะ "จาตุรนต์-พท." ยุสภาฯ สู้ศาล จะรีบไปตายที่ไหน ฟันธง 1 ส.ค. 55 ร่างปรองดองถูกดันเรื่องแรกแน่...
เมื่อเวลา 19.23 น. วันที่ 23 มิ.ย. 2555 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีปราศรัยที่ จ.พิษณุโลก ว่า แม้รัฐสภาจะปิดสมัยประชุมแต่เรายังวางใจไม่ได้ เพราะมีกระบวนการหลายอย่างจะเกิดขึ้น เพราะสัปดาห์ก่อนที่นายสุเทพพูดบนเวทีปราศรัยที่มีนบุรี เอาความจริงมาเปิดเผยเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พยายามทำทุกทางเพื่อไปสู่เป้าหมายขอให้ตัวเองพ้นผิด เอาเงินคืน แล้วค่อยคิดสมัครรัฐเลือกตั้ง เล่นการเมือง บอกว่ามีเป้าหมายเบื้องต้นคือ เป็นนายกฯ โดยให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า หากเป็นนายกฯ จะทำทุกอย่างเหมือนเดิม นายสุเทพเลยเปิดเผยให้ทราบว่า ยังมีวิธีการอื่นๆ นอกเหนือจากการยื่นแก้ไขกฎหมาย เช่น ส่งคนมาทาบทามให้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลด้วย
“ผมยืนยันว่า นายสุเทพ เมืองสุบรรณ ไม่ได้พูดเท็จ เพราะถ้านายสุเทพพูดเฉพาะบนเวทีปราศรัย ผมคงสงสัย แต่ข้อเท็จจริงคือ นายสุเทพพูดให้ผมฟังถึงความพยายามมาอย่างต่อเนื่อง และไม่ใช่นายสุเทพคนเดียว แต่มีคนอื่นที่อยู่ในพรรคที่ใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์เคยมารายงานให้ผม ทราบแนวคิดในการเจรจาแบบเดียวกับนายสุเทพมาแล้ว ผมจึงกล้าพูดได้ว่าไม่ใช่นายสุเทพกุเรื่องขึ้นมา แต่เป็นเรื่องที่ผมรับรู้ รับทราบมีการรายงานถึงขั้นที่ว่า ได้เชิญผู้ใหญ่ในพรรคมาประชุมกัน เพราะเกรงว่าหากมีการติดต่อมา เดี๋ยวคนในพรรคจะสับสน ว่าทำไมผู้ใหญ่ในพรรคมีการไปพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วจะไขว้เขวหรือไม่ สุดท้ายประชุมกันเสียงเป็นเอกฉันท์เห็นว่าใครจะมาติดต่ออย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันชัดเจนว่าไม่ประสงค์จะเข้าไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อ ไทย แต่พร้อมเป็นฝ่ายค้านต่อสู้เคียงข้างประชาชนเพื่อความถูกต้อง” หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นาย อภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่เขามาบอกให้นายสุเทพมาเปิดเผยชื่อ 2 หญิง 1 ชาย ถ้าไม่บอกแปลว่าโกหก ท้าให้ไปสาบาน ตนเห็นนายจตุพร นายก่อแก้ว พ.ต.ท.ทักษิณ พูดจาเหลวไหลไม่เอ่ยชื่อ บอกจะมาปฏิวัติบ้าง เรียกว่าบุคคลผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือรัฐธรรมนูญบ้าง ไม่เห็นมีใครมาเปิดเผยชื่อสักคน จึงแสดงให้เห็นว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะปิดสมัยประชุมสภา และศาลจะไต่สวนพิจารณาว่าการพยายามล้มล้างรัฐธรรมนูญในการยื่นแก้ไขเพิ่ม เติม มาตรา 291 เข้าข่ายตามมาตรา 68 หรือไม่ เรากลับได้ยินการไปตั้งเวทีขู่ศาลรัฐธรรมนูญ แกนนำแดงบอกศาลต้องตัดสินให้ดีไม่อย่างนั้นบ้านเมืองจะมีปัญหา นั่นคือ ถ้าไม่ถูกใจ เขาจะมายึด กทม. อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากเราปล่อยให้ระบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจะไม่มีทางได้รับความยุติธรรมในสังคม
"ใครเสียงดัง มีพวกมาก มีอำนาจก็สามารถข่มขู่คุกคาม เราต้องอยู่ภายใต้ศาลสูงสุดว่าการกระทำนั้นอยู่ภายใต้รธน.หรือไม่ เป็นการถ่วงดุลว่าทุกคนเป็นเจ้าของประเทศไม่ใช่เป็นระบบพวกมากลากไป หรือทำอะไรก็ได้ การแก้รธน.จึงเป็นปมที่เราต้องเป็นกำลังใจให้ศาลรธน.ดำเนินการอย่างตรงไปตรง มา จะวินิจฉัยอย่างไร ถูกใจหรือไม่ เราต้องยอมรับ เพราะเราต้องรักษาระบบ เพราะระบบสำคัญว่าตัวเรา งานต่างๆ ของบ้านเมืองจะเดินหน้าได้ ไม่ใช่ตัดสินถูกใจก็ปลุกระดม ถึงขั้นพูดกันว่ายังไม่ตัดสินก็คิดจะไปล้อมศาล ถือเป็นอันตรายอย่างมาก" หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ นาย จาตุรนต์ ฉายแสง บอกว่าตนไม่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา เพราะไม่สนับสนุนให้สภาสู้กับศาลรัฐธรรมนูญเพราะคำสั่งศาลไม่ผูกพันรัฐสภา ตนก็อยากบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์รักสภา หวงแหนอำนาจสภา แต่แนวคิดของนายจาตุรนต์ที่บอกจะให้สภาไปสู้กับศาลนั้น ไม่ต่างจากนักเลงอาชีวะไปไล่ตีสถาบันอื่น แล้วอ้างว่านั่นคือ การปกป้องสถาบันตัวเอง เพราะถ้าเรารักสถาบันของเราต้องรู้ว่าขอบเขตของเราอยู่ตรงไหน อะไรควรไม่ควร การรักษาสภาฯไม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ไม่ว่าจะคิดว่าคำสั่งนั้นผูกพันกับรัฐสภาหรือไม่ จะเป็นอะไรถ้าจะรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เรียบร้อย ถ้ามั่นใจว่าถูกต้องก็รออีก 1-2 เดือนค่อยลงมติก็ได้ ทำไมรอไม่ได้ จะรีบไปตายที่ไหน
หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วย ส่วนเรื่องกฎหมายล้างผิด คนได้ประโยชน์สูงสุดคือ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องของความถูกต้อง เพราะใครทำเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องได้รับโทษเหมือนกันทุกคน ขณะนี้ เขารอเปิดสภาวันที่ 1 ส.ค. ถ้าการประชุมของสภาเป็นไปตามปกติ นั่นหมายความว่า เรื่องแรกที่ต้องพิจารณากันในการประชุมครั้งแรก คือ กฎหมายปรองดองแห่งชาติทั้ง 4 ฉบับ เพราะเขาเลื่อนมาจ่อเอาไว้ ซึ่งกลายเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการทำงานของรัฐสภา แทนที่จะไปแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชน