รัวกลองเร่งเกมรุก 'ทักษิณ'

คมชัดลึก 19 มิถุนายน 2555 >>>




ไม่ว่าคำปราศรัยของ สุเทพ เทือกสุบรรณ จะมีความเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร แต่เรื่องลักษณะนี้มักเป็นที่ชื่นชอบของคอการเมืองทั้งหลายที่จะมีอาการ "หูผึ่ง" ขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเรื่องเปิดๆ ปิดๆ
สุเทพ บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ติดต่อขอเจรจา แค่นี้ก็ทำเอาพรรคเพื่อไทยร้อนฉ่า ดาหน้าออกมาปฏิเสธกันเป็นแถว ไม่เว้นกระทั่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่นก็เพียงพอให้ สุเทพ ย้ำอีกครั้ง ด้วยการเปิด "อีกนิด" ถึงตัวละครที่อุบไว้
   "พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งคนมาติดต่อเจรจาหลายครั้ง โดยครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคม ผ่านสุภาพสตรี 2 คนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงการเมือง แต่อยู่ในสังคมชั้นสูงและให้ผมไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ หรือประเทศอื่นๆ ที่ผมสะดวก แต่ผมได้ปฏิเสธและขอบคุณ ครั้งสุดท้ายวันที่ 3 มิถุนายน เวลา 17.45 น. ได้ติดต่อให้ผมไปพบที่บ้านผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่หวังดีกับบ้านเมือง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีข้อเสนอ ขอให้พรรคประชาธิปัตย์อย่าต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายปรองดอง รวมถึงให้ยุติการเปิดเวทีปราศรัยกับประชาชน พร้อมเสนอช่วยเหลือคดีความของผม และคดีที่ดินเขาแพงของนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชาย แลกกับการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งผมปฏิเสธ"
นั่นก็ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยเต้นหนักเข้าไปอีก ประชา ประสพดี ส.ส.เพื่อไทย สมุทรปราการ ถึงกับขู่จะเอาม็อบเสื้อแดงไปที่หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปตย์
"ลูกโอ๊ค" พานทองแท้ ถึงกับพิมพ์ลงเฟซบุ๊กว่า พ่อฝากมาบอกสุเทพว่า "ฝันไปเถอะ"
ที่เพื่อไทยต้องเต้นเร่าเสียขนาดนี้ ก็เพราะมันเป็นการเสียเหลี่ยมอย่างรุนแรง ถ้าหากปล่อยให้ศัตรูการเมืองออกมาปล่อยข่าวลักษณะนี้ ไม่ว่าข่าวที่ว่ามานั้นจะเท็จหรือจริงแท้แน่นอน
มีอย่างที่ไหน ปล่อยลูกหาบไปรบแทบตาย นายใหญ่ดอดส่งคนไปเจรจาแบ่งนั่นแบ่งนี่กัน แถมยังทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เสียหายยับเยิน เพราะจะถูกตราหน้าว่า "เอาแต่ได้"
ก็ในเมื่อเรื่องที่ไปต่อรองนั้นมันคือแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับร่าง พรบ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่ประชาธิปัตย์ค้านแบบหัวชนฝา จนทำให้ตอนนี้
"ขุนค้อน" สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ น่าจะเกิดอาการตะครั่นตะครอ เพราะเรื่องถอดถอนออกจากตำแหน่งถูกส่งไปศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เรียกได้ว่า ซวยกันถ้วนหน้า !
จะว่าไปแล้ว เรื่องที่ สุเทพ ปูดออกมา มันก็อาจจะมีส่วนอยู่ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ออกอาการยอมไปหมด โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญกับกฎหมายปรองดอง ทั้งที่ก่อนหน้าดันเข้ามาเต็มสูบ เรื่องกลัวทหารจะยึดอำนาจก็มีปรอทชั้นเลิศคอยวัดระดับความรุนแรงของกองทัพอยู่แล้ว
ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เองก็ย้ำตั้งหลายหนว่า ให้การเมืองแก้ปัญหากันเอง
เรียกว่า ยังรักษาระยะห่างเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีกระแสคนใกล้ชิดจะคิดการใหญ่เสียเอง แต่ก็เป็นเพียงเสียงกระซิบที่มาพร้อมกับสายลม พอพัดผ่านก็จางหาย
แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เลือกที่จะเดินเบาๆ ไม่รุกเร้าเอาให้แตกหักอย่างที่ทีม "แดงซ้าย" อยากให้เป็น
ปัจจัยมันชี้ออกมาอย่างนี้ เรื่องที่ว่ามีแอบเจรจาลับจึงพอจะฟังกันได้อยู่ เพียงแต่ ที่ สุเทพ มาสาวไส้ในจังหวะนี้ อาจจะเป็นเพราะรำคาญที่ 2 หญิงผู้มีฐานะกับ 1 ชายนั้น ตามเต๊าะไม่เลิก
วงในประชาธิปัตย์เองก็บอกว่า เรื่องนี้ นายหัวชวน หลีกภัย ไม่ปลื้มตั้งแต่แรกที่ระแคะระคายว่ามีการแอบเจรจากัน เพราะยังยืนยันว่า "หลักการ" มันต้องเป็นหลักการ ไม่ใช่กลาย "หลักกู" แอบไปซูเอี๋ยแบ่งนั่นแบ่งนี่แล้วจบๆ กันไป
ทำอย่างนั้นประชาชนเขาบอกว่า "คบไม่ได้" จึงยังคงต้องควานหาคำตอบว่า ถ้าคุยกันมานานนมแล้ว เหตุไฉนถึงได้เพิ่งเอามาฟ้องชาวบ้านกันในวันนี้
หรือประเมินแล้วว่า จังหวะถอยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะเป็นจังหวะรุกของประชาธิปัตย์ เพราะชัดเจนแน่นอนว่า ถึงอย่างไรกฎหมายปรองดอง และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องถูกเข็นเข้าสภา แถมยังเห็นว่า วัน-เวลาของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นถูกผลาญให้หมดไปทุกขณะ
โอกาสของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเพียงแค่สิ้นวันที่ 30 กรกฎาคม เพราะวันที่ 1 สิงหาคม ก็จะเป็นวันเปิดสมัยประชุมสภา ที่คราวนี้เป็นเรื่องของการซักฟอกล้วนๆ
ปี่กลองเริ่มรัวกันล่วงหน้าเป็นเดือนกันเลยทีเดียว