"สุชาติ" ยังหวังได้นั่งเก้าอี้ต่อ มองอาจไม่ปรับ ครม. ในช่วงนี้ คาด รบ. อาจอยู่ไม่พ้นสิ้นปีนี้ เหตุมรสุมการเมืองหลายลูกรอจ่อถล่มและความขัดแย้งแรงขึ้น
26 มิ.ย. 2555 ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีรายชื่อนายสุชาติ เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่จะถูกปรับออก และมีชื่อของนายจาตุรณต์ ฉายแสง และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ. คนใหม่ ว่า ตนไม่ขอวิจารณ์รายชื่อของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ และหากถูกปรับออกจริงก็ไม่เสียใจ เพราะขณะนี้ตนอายุ 60 ปีแล้ว และตั้งใจจะรีไทม์ตัวเองออกจากการเมือง
ทั้งนี้ตนมองว่าตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใดๆ ก็ล้วนแต่เป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี ที่ต้องดำเนินการตามนโยบายของนายกฯ ดังนั้นนายกฯ จะเป็นผู้มองเห็นว่าใครเป็นผู้เหมาะสมในเวลาใด และสามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามความเหมาะสม ทั้งนี้การปรับเปลี่ยน ครม. ง่ายกว่าการปรับเปลี่ยนข้าราชการประจำที่จะต้องมีเหตุมีผล
ศ.ดร.สุชาติ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตนตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการศธ.เพียงปีเดียว และคิดว่าได้ทำในเรื่องที่ตั้งใจไว้เกือบหมดแล้ว ตั้งแต่การปฏิรูปความโปร่งใสในการบริหารจัดการงานบุคคล ไม่ให้ถูกเรียกร้องเงินทองในการเข้าสู่วิชาชีพครู และการเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในระดับต่างๆ ส่วนคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการศธ.คนใหม่ต้องมีลักษณะใดนั้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติวิเศษอะไร เนื่องจากต้องทำตามนโยบายนายกฯ ซึ่งเป็นผู้บริหารประเทศ ดังนั้นทุกคนที่มาเป็นรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนดี มีจริยธรรม และไม่โกง เพราะหากโกงไปสั่งใครก็ไม่มีใครฟัง
“โดยส่วนตัวผมมองว่าการปรับเปลี่ยน ครม. ในช่วงนี้คงทำได้ยาก และเป็นเรื่องเล็ก เพราะช่วงนี้รัฐบาลกำลังมีมรสุมเยอะมาก จนต้องคิดว่าจะดำเนินการทั้งระบบเพื่อให้อยู่ต่อได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็น กรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กรณีที่โดนสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยื่นถอนประกันคดีก่อการร้าย ปี 2553 ตลอดการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อาจทำให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลายคนถูกถอดถอนและเป็นเหตุให้พรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องถูกยุบพรรค รวมถึงปัญหาการแบ่งแยกสีก็ยังไม่จบสิ้นลง และดูเหมือนจะรุนแรงมากขึ้นและจะส่งผลให้รัฐบาลอยู่พ้นสิ้นปีนี้ก็ทำได้ลำบาก" นายสุชาติ กล่าว