ผู้จัดการ 1 มิถุนายน 2555 >>>
วานนี้ (30 พ.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ กกต. 2 คน เข้าให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีเงินบริจาค 1 ล้านบาท ของบริษัทอีสต์วอเตอร์ จำกัด ที่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ทราบว่าทางดีเอสไอ มีหนังสือเชิญโดยอ้างกฎหมายพิเศษ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่สามารถปฏิเสธ หรือไม่ให้ความร่วมมือได้ และทราบว่า ทางดีเอสไอได้สอบถาม ในประเด็นข้อกฎหมายที่ กกต. มีอำนาจอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนของกกต.ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งขณะนี้กำลังรอการเข้าให้ถ้อยคำของ นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณโลก ในขณะนั้น ที่ได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม เนื่องจากได้แจ้งขอเลื่อนการเข้าให้ถ้อยคำ เพราะยังติดราชการ อย่างไรก็ตาม ทราบว่าทางดีเอสไอ ก็ได้มีการเชิญนายปรีชา เข้าให้ถ้อยคำด้วยเช่น
"ที่ต้องเชิญนายปรีชามา ก็เพราะส่วนใหญ่เป็นเงินช่วยเหลือน้ำท่วมใน จ.พิษณุโลก และนายเรืองไกร ก็ร้องมาว่า เงินดังกล่าวนั้นเป็นการเข้าพรรคหรือไม่ จึงต้องเชิญมาให้ถ้อยคำเพราะขณะนั้นนายปรีชา อยู่ในพื้นที่ และมีการใช้เงินในส่วนนี้ด้วย"
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ กกต. ชี้แจงว่าจะเชิญนายปรีชา เรืองจันทร์ อดีตผวจ.พิษณุโลก มาให้ปากคำ กรณีเงินบริจาค 1 ล้านบาท บริษัทอีตส์ วอเตอร์ ว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับนายปรีชา ซึ่งก็ไม่ทราบว่า กกต. สับสนกับกรณีที่ตนร้องขอให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ ยุ่งเกี่ยวการแจกถุงยังชีพที่ จ.พิษณุโลก หรือไม่ เพราะตอนยื่นคำร้อง ก็เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน รวมทั้งที่คณะกรรมการไต่สวนของ กกต. เชิญมาให้ถ้อยคำ ก็ให้ตนให้ถ้อยคำทั้ง 2 เรื่องพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีเงินบริจาคของอีสต์ วอเตอร์นั้น หลังยื่นคำร้องแล้ว ตนเห็นว่าการดำเนินการขอกกต.ล่าช้า และเกรงว่าจะสอบสวนไม่ตรงประเด็น รวมถึงเป็นประเด็นที่มีความผิดทางอาญาด้วย จึงได้ไปยื่นร้องต่อดีเอสไอ อีกทางหนึ่ง
"ที่ผ่านมาดีเอสไอได้เรียกผมไปให้ข้อมูล 2-3 ครั้งแล้ว ขณะที่ กกต. เรียกมาเพียงครั้งเดียว อีกทั้งยังปล่อยให้เรื่องผ่านเลยไป ซึ่งหลังจากนี้ กกต. ควรเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏโดยเร็ว รวมถึงเร่งสอบข้อมูลอีก 191 ราย ว่ามีที่มาที่ไปของเงิน และสิ่งของที่มาบริจาคผ่านพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไรบ้าง และหากจะ เรียกผมไปชี้แจง ก็พร้อมที่ให้ข้อมูลตลอดเวลา เพราะเชื่อว่าการที่มาร้องเรียนมีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน ไม่เช่นนั้นคงจะต้องถูกจับไปนานแล้ว" นายเรืองไกร กล่าว