เปิดแล้วโรงเรียน นปช. เยอรมัน "ธิดา" นำทีมแจงแนว ทางเสื้อแดง หวังสร้างเครือข่าย ให้เชื่อมโยงทำงานเป็นเอกภาพสอดคล้องนปช.ในไทยพร้อมสร้างความเข้าใจให้สังคมโลกรับรู้ สถานการณ์การต่อสู้ของคนเสื้อแดง เหตุโดนบิดเบือนข้อ เท็จจริง ตั้งเป้า 1 ปี ขยายโซเชี่ยลมีเดีย ก่อนลุยเดนมาร์ก-ฝรั่งเศส เผยกลับถึงไทย 7-8 ก.ค. เตรียมสัมมนาแกนนำนปช.ส่วนกลาง แล้วเดือน ก.ค. ลุยเปิดโรงเรียน นปช. เพิ่ม ทั้งในอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวข่าวสดรายงานว่า นางธิดา โตจิราการ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วย นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ในฐานะตัวแทนผู้เสียหาย นายคารม พลพรกลาง ทนายความ เดินทางออกจากเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ภายหลังเข้าให้การต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ กรุงเฮก คดีปราบปรามประชาชน 98 ศพ ในเหตุการณ์เม.ย.-พ.ค. 2553 ก่อนมาถึงเมืองโคปเลนด์ ประเทศเยอรมัน โดยมีสมาชิกคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางมาต้อนรับ จากนั้นไปพบคนเสื้อแดงในเมืองโคปเลนด์และเบอร์ลิน พร้อมเปิดโรงเรียน นปช.
นางธิดากล่าวว่า การเดินทางมาเปิดโรงเรียน นปช. ในยุโรปครั้งนี้ เป็นการทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงในยุโรปถึงสถานการณ์ภายในประเทศไทย รวมถึงปรับรูปแบบและการจัดตั้งของกลุ่มเสื้อแดงในยุโรปให้มีลักษณะเป็นเครือข่ายระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่อยู่ในยุโรป เพื่อให้การขับเคลื่อนของคนเสื้อแดงเป็นเอกภาพ เพราะมองว่าสถานการณ์ในประทศไทยขณะนี้ล่อแหลม และเสี่ยงต่อการเกิดรัฐประหารแบบใดแบบหนึ่ง ขณะเดียวกันในเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาก็มีการจัดตั้งเครือข่าย นปช. ในลักษณะเดียวกัน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ฮ่องกงและฝรั่งเศส ซึ่งทั้งยุโรป เอเชียแปซิฟิกและอเมริกาจะต้องมีการประสานงานเป็นเครือข่ายเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและร่วมกันทำงานภายใต้เป้าหมายเดียวกัน พร้อมสนับสนุนการทำงานของ นปช.ส่วนกลาง ในประเทศไทย หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น ดังนั้นจำเป็นต้องวางรูปแบบการจัดตั้งยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการขับเคลื่อนการทำงาน
นางธิดากล่าวต่อว่า รูปแบบการจัดตั้งยุทธ ศาสตร์และยุทธวิธีของ นปช. ในต่างประเทศจะแตกต่างจากในประเทศไทย เพราะเป็นการสื่อ สารให้สังคมโลกได้รับทราบข้อเท็จจริงและให้เข้าใจสถานการณ์การต่อสู้ของคนเสื้อแดงในไทย เนื่องจากที่ผ่านมามีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งจะไม่เน้นขยายมวลชน แต่จะเป็นการเน้นสร้างความเข้าใจ และต้องยอมรับยังมีคนจำนวนหนึ่งที่มีภาพลบต่อ นปช. และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
"ภายใน 1 ปี วางเป้าหมายว่าต้องขยายในเรื่องของโซเชี่ยลมีเดียให้กว้างและมีคุณภาพมากขึ้น พร้อมส่งเสริมให้เครือข่าย นปช. ในต่างประเทศต่างมีความเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของ นปช.ในประเทศไทย" ประธาน นปช. กล่าว
นางธิดากล่าวอีกว่า หลังกลับจากยุโรปในวันที่ 7-8 ก.ค. จะมีการจัดสัมมนา แกนนำ นปช. ส่วนกลางในประทศ จากนั้นภายในเดือน ก.ค. จะเปิดโรงเรียน นปช. ให้มากที่สุด เริ่มจากในภาคกลางและภาคอีสานตามลำดับ ทั้งนี้ภายหลังเปิดโรงเรียน นปช.ในประเทศแล้วก็มีแผนที่จะไปเปิดโรงเรียน นปช. ที่สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอังกฤษด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกำหนดการเดินทางทัวร์ยุโรปในวันที่ 29 มิ.ย. คณะจะเดินทางไปพบคนเสื้อแดงที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน และในช่วงบ่ายจะเดินทางต่อไปเมืองโคเปน เฮเกน ประเทศเดนมาร์ก จากนั้นวันที่ 1-2 ก.ค. จะเดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยในวันที่ 1 ก.ค. จะเปิดโรงเรียน นปช.กลางแจ้งที่บริเวณหอไอเฟล และวันที่ 2 ก.ค. จะเข้าหารือกับกระทรวงสิทธิมนุษยชนของฝรั่งเศส
วันเดียวกัน ที่สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระ บรมในราชูปถัมภ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานพิธีเปิดงานและกล่าวถวายราชสดุดี งานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 'เงินตราคู่แผ่นดิน นวมินทร์องค์ราชันย์' ที่กระทรวงการคลังจัดขึ้น โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงจากชุมชนบ้านมั่นคง บ้านเอื้ออาทร สวนพลู สาทร ประมาณ 100 คน เดินทางมาให้กำลังใจ ระหว่างนั้นนายกิตติพงษ์ อนุนัยเศรษฐ อายุ 60 ปี ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายกฯ ขอให้ช่วยเหลือเยียวยากรณีที่ได้รับ ผลกระทบจากการชุมนุม
นายกิตติพงษ์เปิดเผยว่า เดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 53 บริเวณแยกราชประสงค์ โดยลงรถไฟฟ้าที่แยกถนนสีลม ขณะนั้นถูกทหารและตำรวจรุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งครั้งแรกไม่คิดว่าจะเป็นอะไร ต่อมาเกิดอาการผิดปกติ จึงเข้ารับการตรวจรักษา จากแพทย์พบว่าบริเวณลำไส้ได้รับการกระทบกระเทือนจนอักเสบอย่างรุนแรง สุดท้ายแพทย์ต้องตัดลำไส้ทิ้งไป 40 ซ.ม. รวมทั้งนิ้วชี้เท้าด้านขวาขาดไป 1 นิ้วด้วย จึงขอให้นายกฯ พิจารณาให้ความช่วยเหลือ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ รองประธาน นปช. ระบุหากศาลอาญาเพิกถอนการประกันตัวของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่ทันทีว่า หวังว่าจะไม่กระทบกับการใช้ดุลพินิจของศาลอย่างตรงไปตรงมา ขอให้ศาลว่าไปตาม เนื้อผ้า อย่าหวั่นไหว แต่เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันมีปรากฏการณ์ใช้กระบวนการทางการเมืองแทรก แซงดุลพินิจของศาล ดังนั้น รัฐบาลต้องตอบคำถามตรงนี้ว่าสนับสนุนให้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นหมายความว่าศาลจะตัดสินอะไรต้องอยู่ภายใต้คำขู่ หากตัดสินไม่ถูกใจจะมีการชุมนุมหรือความวุ่นวายเกิดขึ้น จึงอยากรู้ว่ารัฐบาลจะปกป้องศาลอย่างไร หากรัฐบาลประ สงค์จะลากศาลเข้ามาอยู่เป็นความขัดแย้งการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก ทั้งหมดที่ทำอยู่เพื่อรองรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะลดอำนาจของศาล โดยมีกระบวนการทำกันอย่างเป็นระบบ