พท. ส่อไม่ถอนร่างปรองดองฯ

คมชัดลึก 30 มิถุนายน 2555 >>>




พท. ส่อไม่ถอนร่าง พรบ.ปรองดอง จี้ ปชป. เสนอร่างตัวเองเพื่อความปรองดองแท้จริง 'ชัจจ์' ลั่นไม่ปรองดอง กับฆาตกร ด้าน 'เสื้อแดง' ลั่นเดินหน้า อย่ากลัว 'ก่อแก้ว' ค้านถอนร่างฯ แนะ แค่ชะลอเพื่อลดความขัดแย้ง

นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เสนอร่าง พรบ.ปรองดองฯ ฉบับพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คงเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ในเรื่องที่จะให้ถอนร่าง พรบ.ปรองดองฯ ออกไปก่อน
   "คงไม่ได้รับสัญญาณอะไรมา เพราะถ้าได้รับสัญญาณมาก่อน ก็คงต้องมาคุยกับผู้เสนอร่างก่อนเพื่อหาทางออก ซึ่งที่ผ่านมา พวกผมก็ยังไม่ทราบเรื่องนี้ และยังไม่ได้มีการหารือกับนายสมศักดิ์"

เสนอ 3 แนวทาง ร่าง พรบ.ปรองดอง

ทั้งนี้ ส่วนตัวในฐานะที่เป็นผู้เสนอร่างมองว่า น่าจะมีทางออกสำหรับเรื่องนี้อยู่ 3 แนวทาง คือ
1. เมื่อฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับร่างที่มีการเสนอเข้ามา ไม่สบายใจ เห็นว่า เป็นการทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ก็อยากให้ฝ่ายค้านเสนอร่างของตัวเองเข้ามา ซึ่งสามารถพิจารณารับหลักการวาระแรกได้เลยเมื่อเปิดสมัยประชุม และจะใช้ร่างของฝ่ายค้านมาเป็นหลักในการพิจารณาชั้นกรรมาธิการด้วยก็ได้ไม่มีปัญหา อย่างนี้เราจึงสามารถอธิบายได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วยกับการปรองดอง
2. การถ่วง หมายถึงการเลื่อนเรื่องอื่นมาพิจารณาก่อน เพื่อเปิดทางให้มีการทำความเข้าใจ หรือเปิดเวทีเสวนารับฟังความเห็นให้มากขึ้น และ
3. ถอนออกไปเลย แต่การถอนออกไปไม่ใช่ว่าถอนไปแล้วก็จบกัน เพราะจะเป็นการหมกปัญหาเอาไว้ ดังนั้น ทั้งการถ่วงหรือถอนจะต้องมีกรอบเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินการด้วย และคู่ขัดแย้งต้องคุยกันให้ตกผลึกด้วย จะเดินหน้าต่อได้เมื่อไหร่อย่างไรต้องกำหนดให้ชัด
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคิดว่า แนวทางที่ดีที่สุดคือแนวทางแรก โดยฝ่ายค้านควรจะเสนอร่างของตัวเองเข้ามา อยากได้แบบไหนอย่างไรก็เขียนมาให้ชัด เพื่อหาจุดร่วมกันให้ได้มากที่สุด

'ชัจจ์' ลั่นไม่ปรองดอง กับฆาตกร

ด้าน พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม กล่าวว่า เขามองว่า ในความหมายของนายสมศักดิ์ คือ ให้ชะลอไปก่อน และทำงานอื่นไปเรื่อย ๆ แต่คิดว่า เรื่องนี้ถึงอย่างไรก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะไม่เช่นนั้นความเป็นธรรมจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ในฐานะที่เป็นตำรวจมา ไม่สมัครใจปรองดองกับฆาตกร ถ้าเขาไม่ประสงค์ปรองดองด้วยก็ไม่ต้องไปปรองดองกับเขา
กระนั้น เขาก็บอกว่า ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กันในพรรค ส่วนตัวก็ไม่อยากแสดงความเห็นมากนัก เพราะตำแหน่งประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ก็ต้องให้เกียรติท่าน ไม่ควรไปเดาใจหรือวิพากษ์วิจารณ์ท่าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประธานสภาฯ เป็นสมาชิกพรรคก่อนตัดสินใจเรื่องสำคัญต้องหารือกับพรรคหรือไม่ พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า บางเรื่องไม่จำเป็นต้องหารือ ตัดสินใจได้เลย ไม่ใช่หารือกันทุกเรื่อง
   "เมื่อเขาไม่ปรองดองด้วยก็ถอน ทำงานอย่างอื่นไปก่อน"
เมื่อถามว่า หมายถึงถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ออกถาวรใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าควรต้องเดินเรื่องนี้ต่อ เพราะถ้าไม่มีความเป็นธรรมบ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้ แต่การจะนำขึ้นมาพิจารณานั้นอยู่ที่ว่าเวลาไหนเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกันถึงเรื่องการปรับ ครม. หรือไม่ พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ เป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่งไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ ทั้งนั้น นายกฯปิดเรื่องนี้ที่สุด
ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งสัญญาณบ้างหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า นายกฯก็เริ่มใหญ่เหมือนกันนะ วันนี้เป็นตัวของตัวเอง วันนี้ รัฐมนตรีเองก็เปลี่ยนไปมองนายกรัฐมนตรีด้วยสายตาอีกอย่าง แม้แต่ผมเอง ก็ยังไม่เคยคิดว่า ท่านจะอดทนและนิ่งได้ขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ถูกโจมตีในหลาย ๆ เรื่อง

'ก่อแก้ว' ค้านถอนร่างฯ แนะ แค่ชะลอเพื่อลดความขัดแย้ง

นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า การจะถอนร่าง พรบ.ปรองดอง จะต้องถาม ส.ส. ที่โหวตกันมาด้วยเสียงส่วนใหญ่ด้วย ถ้าหากมีการถอนไปเลย โดยไม่หารือกันก่อน คงไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่า ถ้าชะลอเรื่องนี้ไว้ โดยนำกฎหมายฉบับอื่นขึ้นมาพิจารณาก่อน ถือเป็นทางออกที่ดี เพราะหากรีบเร่งนำร่างพรบ.ปรองดองมาพิจารณา ก็มีแนวโน้มว่า อาจจะเกิดความรุนแรง เผชิญหน้า ดังนั้น ควรให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปหารือในข้อสงสัยกันให้ผ่อนคลายก่อน
สำหรับคนเสื้อแดง เชื่อว่า คงไม่มีปัญหา เพราะก็อยากเห็นบ้านเมืองปรองดอง หลังจากที่เราต้องเสียเวลาไปกับความขัดแย้งตั้งหลายปี วันนี้ ปัญหาภายนอกก็เยอะ ปัญหาภายในก็มาก ฉะนั้นไม่ควรทำอะไรให้เป็นชนวนความขัดแย้งเพิ่มเติม

เตือนศาล รธน. ชี้ขาดแก้ รธน. ระวัง 'โก โซ บิ๊ก'

สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ชะลอการลงมติในวาระที่ 3 ไว้นั้น นายก่อแก้ว กล่าวว่า ถึงตอนนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลว่า จะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าหากศาลสรุปออกมาเป็นบวกก็ดีไป แต่ถ้าสรุปออกมาเป็นลบก็ “โก โซ บิ๊ก” แน่ คงจะมีปฏิกิริยาจากคนทั่วประเทศไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากปรากฏว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องนี้ล่าช้า จนมีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 1 ส.ค. ก่อนนั้น เชื่อว่า จะมีสมาชิกรัฐสภาบางส่วนกดดันประธานรัฐสภาให้เดินหน้าโหวตวาระ 3 ทันที ซึ่งส่วนตัวก็อยากให้มีการเดินหน้าเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะจุดยืนของเขาคือ จะปล่อยให้อำนาจอื่นแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติไม่ได้

'เสื้อแดง' ลั่น เดินหน้าอย่ากลัว

ด้านนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประธานสภาฯ ต้องคิดให้ดี เพราะเราถอยมาตลอดแล้ว ร่าง พรบ.ปรองดองฯ เป็นการสร้างรากฐานความแข็งแรงให้ประเทศ ให้เดินไปข้างหน้าได้ ดังนั้น จะถอยอีกไม่ได้
   "คนที่จะถอนเรื่องนี้ได้คือ พล.อ.สนธิ (บุญรัตกลิน) ในฐานะผู้เสนอร่าง ไม่ใช่ประธานสภาฯ ท่านไม่มีสิทธิ ขณะเดียวกัน ยังมีร่างของคนเสื้อแดง ที่นำโดยนายณัฐวุฒิ (ใสยเกื้อ) เสนอเข้าไปอีก เราคิดว่า คงไม่ถอน ต้องเดินหน้าต่อ เพราะประชาชนถูกกระทำมาหลายปี ถูกความอยุติธรรมกดขี่ ข่มเหง ซึ่งเราต้องการแก้ไขตรงนี้ ส่วนตัวเห็นว่า น่าจะลองทำประชามติถามคนทั้งประเทศในเรื่องนี้ดูว่า เขาต้องการอย่างไร"
นายวรชัย กล่าวว่า เมื่อเปิดสภาในวันที่ 1 ส.ค. 55 ก็ควรที่จะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อทันที อย่าไปกลัว อย่าไปถอย ที่บอกว่า จะเกิดความขัดแย้งนั้น มันเกิดมานานแล้ว คนที่สร้างความขัดแย้ง คือพวกที่ออกมาต่อต้าน เป็นคู่กรณีหน้าเดิมของเราทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ คนเสื้อเหลือง องค์กรอิสระ แล้วคนที่เลือกเรามาล่ะเราไม่คิดถึงเขาบ้างหรือ ต้องช่วยเขา ต้องทำให้มันชัดเจนด้วยการเดินหน้าต่อไป
ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ชะลอการลงมติในวาระที่ 3 ไว้นั้น ไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมาอย่างไร ตัดสินว่าไม่ถูกต้อง ก็ไม่ต้องไปสนใจ เพราะอัยการออกมาฟันธงแล้ว เราจะไม่ยอมรับอำนาจศาล เพราะทำผิดรัฐธรรมนูญเสียเอง ไม่มีถอย คนเป็นล้านพร้อมออกมา แต่จะต่อสู้ในแนวทางสันติวิธี

พท. ถกเครียด ก่อน ศาล รธน. ชี้ขาด แก้ รธน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อหารือ และเตรียมความพร้อมก่อนที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนัดไต่สวนกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนัดแรกในวันที่ 6 ก.ค. 55
ทั้งนี้ นายยงยุทธ ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุมครั้งนี้ได้แจ้งว่า ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทย และทีมกฎหมายส่วนตัวได้เตรียมข้อมูลพร้อมแล้ว สาระหลักจะอ้างความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปโดยชอบ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกันด้วย ซึ่งที่ประชุมมีความเป็นกังวลต่อท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญ

'ปลอด' เปิดทาง 'ภูมิธรรม' นั่ง ผอ.พรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่ง ผอ. พรรคเพื่อไทย ด้วยโดยเหตุผลที่นายปลอดประสพอ้างคือ เพราะมีภารกิจในหลายตำแหน่ง และได้เสนอชื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย สมาชิกพรรคเพื่อไทย รับตำแหน่ง ผอ. พรรคเพื่อไทย แทนด้วย