ปมเจรจาเกี้ยเซี้ย "ปชป.-พท."

ข่าวสด 21 มิถุนายน 2555 >>>


เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์วงกว้าง กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ปูดข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งคนไปเจรจาให้เข้าร่วมรัฐบาล แลกกับเลิกต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งต่อมาประเด็นลุกลาม โดยมีการเปิดชื่อย่อ 2 สตรีสูงศักดิ์ และ 1 ชายร่วมทีมเจรจา
ข่าวดังกล่าวจริงเท็จประการใด เป็นไปได้ที่ 2 พรรคใหญ่จะทิ้งอดีตและจุดยืนแล้วจับมือตั้งรัฐบาลร่วมกัน นักวิชาการและผู้คลุกคลีแวดวงการเมืองแสดงความเห็นไว้อย่างน่าสนใจ ดังต่อไปนี้

เหวง โตจิราการ
ส.ส.เพื่อไทย แกนนำ นปช.

เป็นไปไม่ได้เลย พ.ต.ท.ทักษิณ ตระหนักดีว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เกี่ยวข้องกับคดี 98 ศพ คำพูดของนายสุเทพจึงเป็นเพียงนิทานที่แต่งขึ้น เป็นเรื่องโกหกหวังเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศ
นายสุเทพรู้ว่าถ้าพูดแบบนี้จะทำให้พี่น้องเสื้อแดงรู้สึกไม่สบายใจ จึงต้องการตอกลิ่มพี่น้องเสื้อแดงให้รู้สึกไม่ดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยวิดีโอลิงก์มาในการชุมนุมที่แยกราชประสงค์คราวก่อน ที่ระบุว่าพี่น้องไม่ต้องพายเรือส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นเขาแล้ว
พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีเจตนาถีบหัวเรือ ครั้งนั้นเป็นเพียงการประเมินสถานการณ์ที่แตกต่างกัน พ.ต.ท.ทักษิณ มองโลกในแง่ดี คิดว่าประเทศจะสามารถเดินหน้าเข้าสู่ความปรองดองได้
แต่สุดท้ายก็รู้ว่าสถานการณ์ในประเทศยังไม่สงบ ทั้ง พ.ร.บ.ปรองดอง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังเดินต่อไปไม่ได้ ซึ่งท่านได้กล่าวคำขอโทษพี่น้องเสื้อแดงแล้ว
สิ่งที่นายสุเทพพูดเป็นเรื่องโกหกร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงอยากให้แสดงความรับผิดชอบ เปิดเผยตัวบุคคลที่อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งไปเจรจาให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล หากไม่เปิดเผยนายสุเทพไม่สมควรจะเป็นคนไทยอีกต่อไป
ดีเอ็นเอของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่ผ่านมาอาจมีปัญหาบ้างเพราะต่างฝ่ายต่างเข้าใจสถานการณ์แตกต่างกัน
พ.ต.ท.ทักษิณ มองโลกในแบบผู้ใหญ่ มองข้ามช็อตที่อยากให้ประเทศเดินหน้าเข้าสู่ความสร้างสรรค์
ขณะที่คนเสื้อแดงเห็นว่าสถานการณ์ยังไม่ปกติ เพราะฆาตกรยังไม่ถูกนำตัวมาลงโทษ ความจริงก็ยังไม่ปรากฏ ความยุติธรรมก็ยังไม่กลับคืนมา และเหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่าน มา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บทเรียนมามากพอแล้ว
ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะเอาคนพรรค์อย่างนี้มาร่วมรัฐบาลได้หรือ ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์เก่งในเรื่องคิดมุขสร้างความปั่นป่วนจนเกิดความระส่ำระสายกับผู้อื่น แต่ขอบอกว่าใช้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงไม่ได้

พวงทอง ภวัครพันธุ์
รัฐศาสตร์ จุฬาฯ

นายสุเทพออกมาพูดหลายฝ่ายอาจมองว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่จากสถานการณ์ทางการเมือง 5-6 ปีที่ผ่านมา ทำให้เรารู้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น หลายอย่างไม่ได้อยู่ในความเป็นเหตุเป็นผล และไม่มีใครคาดคิดด้วย
ถ้านายสุเทพยืนยันว่าตัวเองพูดความจริงก็ควรระบุให้ชัดเจนไปเลยว่า 3 คนนั้นเป็นใคร เพราะฝ่ายพรรคเพื่อไทยก็ออกมาปฏิเสธอย่างเข้มแข็งว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
สำหรับดิฉันแล้ว ในทางการเมืองและในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้เลยที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยจะมาร่วมรัฐบาลกัน ต่อให้สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พูดจะเป็นความจริงก็ตาม
ไม่ว่าฝ่ายค้าน รัฐบาล หรือแม้แต่ พ.ต.ท. ทักษิณ คงไม่ได้ตาบอดถึงขนาดมาร่วมงานกัน เนื่องจากเป็นศัตรูทางการเมืองกันอยู่ เมื่อเป็นศัตรูก็ต้องหาทางทำลายซึ่งกันและกัน โดยใช้ทุกวิธีการเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
แค่ พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอ พ.ร.บ.ปรองดอง ให้ล้างความผิดทุกฝ่ายจากเหตุการณ์ทางการเมือง พรรคเพื่อไทยบางส่วนและมวลชนคนเสื้อแดงก็ออกมาคัดค้านอย่างหัวชนฝาแล้ว
หากจะไปจับมือกับผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 คนเสื้อแดงต้องไม่ยอมแน่ๆ และพรรคเพื่อไทยเองคงจะโดนเล่นงานหนักด้วย

สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

กรณีที่นายสุเทพระบุนั้นน่าจะเกิดจากความปรารถนาดีของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่อยากให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อ โดยใช้วิธีจับแพะชนแกะ แบบที่ไม่มีใครรู้มาก่อน คือไปพูดติด ต่อทั้งสองฝ่ายด้วยตัวเอง
เมื่อไปติดต่อฝั่งของนายสุเทพก็อ้างว่า เป็นความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เมื่อไปติดต่อทางพ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะอ้างว่าเป็นความต้องการของนายสุเทพ หรือแกนนำพรรคประชาธิปัตย์
หากแต่ละฝ่ายตกลงก็เป็นไปตามเกมที่ต้องการ บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ แต่เมื่อมีการปฏิเสธก็จบ ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ข่าวนี้น่าจะมีมูล ไม่น่าจะใช่ข่าวโคมลอย คือเป็นเรื่องความปรารถนาดีของคนกลุ่มหนึ่ง ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่การรวมกันตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยจะเกิดขึ้น ทั้งที่ 2 พรรคมีอุดมการณ์และจุดยืนต่างขั้ว
อีกทั้งกลุ่มเสื้อแดงในพรรคเพื่อไทยก็มีเรื่อง 98 ศพ เรียกร้องรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์แสดงความรับผิดชอบ
ผมมองว่าการเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน อนาคตเป็นเรื่องที่ใครก็ไม่อาจคาดเดาได้ อย่างเมื่อก่อนพรรคชาติไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงรอยกันแบบผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ แต่เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่จำเป็นจะต้องร่วมกันทำงาน ก็สามารถรวมกันได้ เป็นเรื่องของอนาคตทางการเมืองที่ไม่แน่นอน
หลังเหตุการณ์นี้ทิศทางการเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป คงต้องรอดูว่าความปรารถนาดีของคนกลุ่มนี้จะมีผลสัมฤทธิ์มากน้อยเพียงใด

นิคม ไวยรัชพานิช
รองประธานวุฒิสภา


ดูเหมือนเหตุการณ์จะพาไปจากกรณีกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ คือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่าง พ.ร.บ. ปรองดอง ซึ่งเกี่ยว ข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรงว่าจะกลับประเทศได้หรือไม่
อาจเป็นไปได้ที่คนใกล้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ อยากทำหน้าที่ผู้หวังดี อาสาเจรจาหาทางออกให้ คงไม่ใช่ความคิด พ.ต.ท.ทักษิณ แน่
ถ้าเป็นเช่นนี้จริงทำได้ไม่ถูกเวลา ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ด้วยที่จะเอาตำแหน่งไปแลกเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ยุติการกระทำขัดขา เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีเรื่องร้อนแรง กรณีศาลมีคำสั่งชะลอลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยกับเสื้อแดงก็มีความเห็นขัดแย้งกันมาหยกๆ
คนเสี้ยมก็เลยได้ใจ ปั่นหัวจนพากันงง ถ้าคิดให้ถ่องแท้เรื่องนี้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี กระทบความสัมพันธ์แน่นอน
อย่างไรก็ตาม หัวชนฝาเลยว่าเป็นไปไม่ได้ที่พรรคเพื่อไทยจะกลับลำ ถึงเวลานั้นจะตอบสังคมอย่างไร คนระดับ พ.ต.ท.ทักษิณ คิดได้แค่นี้เองหรือ เป็นไปไม่ได้ ที่ผ่านมาพยายามเดินหน้าสู้เกมในสภาอย่างเป็นประชาธิปไตยมาโดยตลอด
ขณะนี้พรรครัฐบาลกำลังถูกดิสเครดิตมากขึ้นเรื่อยๆ จริงไม่จริงเราก็ไม่ทราบแน่ รู้แต่ภาพที่ออกมาเริ่มสร้างความเสียหายกับตัวเอง
ดังนั้น ถ้าเชื่อใจกันจริงยังมีเรื่องที่ต้องประสานกันอยู่ คือ สะสางคดี 98 ศพที่ต้องค้นหาความจริง กลุ่มเสื้อแดงต้องมีเกมรุก เร่งรัดเรื่องนี้
เป็นการโต้ทางการเมือง สวนทางกับประ ชาธิปัตย์ที่พยายามเอาแต่เร่งยับยั้งและจูงใจทำให้คนเห็นว่า กฎหมาย 2 ฉบับทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว