มติชน 3 มิถุนายน 2555 >>>
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า สำหรับกรณีที่นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ออกมาเตือนรัฐบาลอย่าละเมิดสิทธิของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรนั้น รู้สึกแปลกใจเพราะการออกมาของนางอมราทุกครั้ง ไม่ถูกที่ถูกเวลา ย้อนไปในอดีตสลายชุมนุม 10 เมษายน 53 และการชุมนุมแยกราชประสงค์ เหตุใดจึงไม่ออกมาตักเตือนรัฐบาลและจนถึงวันนี้การตรวจสอบก็ไม่ถึงไหน ไม่เคยเรียกร้องสิทธิให้คนตายคนเจ็บ เชื่อว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยอดทนต่อสถานการณ์และปฏิบัติตามกฎหมาย ควรเตือนพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรปฏิบัติให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ยุยงผู้ชุมนุมให้ไปละเมิดสิทธิผู้อื่น โดยเฉพาะการสัญจรไปมา รวมถึงการปิดกั้น ตรวจบัตร ส.ส.รัฐบาล ไม่ให้เข้าประชุม นางอมราช่วยเตือนหน่อยว่าสิ่งเหล่านี้โยงอย่างไร มีส่วนร่วมหรือไม่ ประธานกรรมการสิทธิฯ ต้องรู้ทัน ไม่ใช่กินเงินเดือนแสนกว่าเท่านั้น วันนี้ประธานกรรมการสิทธิต้องทำตัวเป็นคนกลางอย่าอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง เพราะอาจทำให้สังคมไขว้เขวว่ากรรมการสิทธิสองมาตรฐาน อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยจะยื่นตรวจสอบพฤติกรรมและความเป็นกลางของนางอมราต่อไป เพราะได้ทำหน้าที่ไม่เป็นกลางมาหลายครั้งแล้ว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น.ถูกย้ายมาช่วยราชการการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ตนมองว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลกลุ่มผุ้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่หน้าสภาฯ หละหลวม เพราะม็อบเพียงพันคน กลับปล่อยให้ปิดสภาฯ ถึงขั้นตรวจสอบบัตรของนักการเมือง ถือเป็นกบฏ ผิดกฎหมายอาญา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับหละหลวม ซึ่งโดยส่วนตัวขอตำหนิ