เลขาฯ ป.ป.ช. เผยที่ประชุม อนุฯ กก. ไต่สวน “เยาวภา” รวยผิดปกติ และยื่นบัญชีเท็จ มีมติยกคำร้องเหตุสอบแล้วไม่พบมูลความจริง
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายอภินันท์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้อหาร่ำรวยผิดปกติ และจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อเท็จที่ควรจะแจ้งให้ทราบ ที่มีนายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธาน อนุกรรมการไต่สวน มีมติยกคำร้อง หลังจากที่คณะอนุกรรมการไต่สวนตรวจสอบแล้วพบว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลความจริง จึงมติให้คำร้องดังกล่าวตกไป
สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2549 นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.ประชาธิปัตย์ เป็นผู้ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เมื่อปี 2549 เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในเวลานั้น โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหมู่บ้านชินณิชาวิลล์ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเบเวอร์รี่ฮิลล์ ย่านถนนแจ้งวัฒนะ มูลค่า 250 ล้านบาท นอกจากนี้ บุตรชายและบุตรสาว 3 คนถูกตรวจสอบพบว่าเป็นเจ้าของหุ้นมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรารายงานว่า นายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนเคยเรียก น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวมาสอบข้อเท็จจริง เจ้าตัวรับว่าเป็นเจ้าของบ้านหรูร่วมกับพี่ชายช่วยกันซื้อไว้ เอาไปจำนองกับสถาบันการเงิน ช่วยกันผ่อนชำระ โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บิดา และนางเยาวภา มารดาของ น.ส.ชินณิชา แต่อย่างใด ส่วนกรณีถือครองหุ้นเกิดจากทำมาหากินตั้งแต่เรียนหนังสือ หุ้นในเครือเอ็มลิงค์จำนวนหลายร้อยล้านบาท แม่ยกให้และมีเงินปันผลปีละนับสิบล้านบาท
