กองทัพบกแจง 6 ศพวัดปทุมฯ

ประชาไท 20 มิถุนายน 2555 >>>


19 มิถุนายน 2555 พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงและชี้แจงกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาไต่สวนพยานกรณีการการเสียชีวิต 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม โดยพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ให้การว่า การเสียชีวิตผู้ผู้ชุมนุมเกิดจากอาวุธของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ และมีวิถีกระสุนจากบนลงล่าง ทั้งนี้ รองโฆษกกองทัพบกระบุว่า มิได้มุ่งหวังจะให้เกิดผลกระทบสถานการณ์บ้านเมือง แต่เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจากข้อเท็จจริงจากหลักฐานทีเกิดขึ้น จึงขอชี้แจงใน 3 ประด็น ดังนี้
1. ประเด็นผู้เสียชีวิต 5 ศพ ถูกยิงด้วยกระสูน .223 หัวสีเขียว ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้กับ M 16 และ ทราโว ที่มีการระบุว่ามีใช้เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น ในข้อเท็จจริงคือ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 เจ้าหน้าที่ได้ถูกปล้นปืน และกระสุนที่บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า เป็นอาวุธปืนทราโว จำนวน 12 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนขนาด .223 หัวสีเขียว จำนวน 700 นัด ปืนลูกซอง จำนวน 35 กระบอก พร้อมกระสูนยาง 1,152 นัด และในวันเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ทหารได้ถูกปล้นปืนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นปืนนทราโว 13 กระบอก และวันที่ 15 พ.ค. 53 เจ้าหน้าที่ได้ถูกปล้นปืนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เป็นอาวุธปืน M 16 2 กระบอก และกระสุน M 16 อีก 100 นัด ซึ่งปืนและกระสุนปืนที่ถูกปล้นไปเหล่านี้ มีหลักฐานพบว่าได้ถูกนำมาใช้ก่อเหตุในหลายๆ เหตุการณ์ โดยขณะนี้ทางกองทัพได้อาวุธปืนคืนมาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่อาวุธปืนส่วนใหญ่ที่ถูกปล้นไปยังไม่ได้รับคืน
2. ประเด็นการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ที่ระบุว่าไม่พบร่องรอยจากการยิงจากบริเวณด้านล่างขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้านั้น ในข้อเท็จจริงการเคลื่อนย้ายกำลังของเจ้าหน้าที่ทหารขณะนั้น ไม่สามารถผ่านแยกเฉลิมเผ่าเข้าไปได้ เนื่องจากชายชุดดำที่อยู่บนพื้นราบได้ยิงสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการเคลื่อนกำลังเข้าไป และการตรวจสอบของพนักงานสอบสวนที่ได้สอบสวนพยานเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้การถึงชายชุดดำว่า
ชายชุดดำได้หลบอยู่บริเวณตอหม้อต้นที่ 1 นับจากบริเวณแยกเฉลิมเผ่า และได้ใช้อาวุธปืนความเร็วสูงยิงใส่เจ้าหน้าที่ โดยสังเกตได้จากกระสุนปืนที่ไปกระทบกับตอหม้อและคานปูนของรางรถไฟฟ้า ซึ่งแตกกระจายและมีฝุ่นตกลงมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน และมีภาพถ่ายของรอยกระสุนอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสยาม แต่ไม่มีการกล่าวถึง
3. ประเด็นภาพถ่ายของประจักษ์พยานที่นำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเกิดเหตุ พบว่า บนรางรถไฟมีเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่ประจำอยู่ ทั้งนี้ข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ทหารวางกำลังอยู่บนรางรถไฟฟ้าจริง แต่การวางกำลังไม่ได้วางตลอดแนว เพราะถูกขัดขวางตลอดเวลา แนวที่วางกำลังไปได้แค่จากสถานีรถไฟฟ้าสยามถึงวัดปทุมเท่านั้น ซึ่งข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าว กองทัพบกได้ส่งให้ส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมาธิการวุฒิสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและพิจารณาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ
ทั้งนี้ กองทัพบกมิได้มุ่งหวังว่าจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงซึ่งกระบวนการยุติธรรม แต่คาดหวังว่าทุกฝ่ายจะทำหน้าที่ของตนด้วยความรับผิดชอบตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทั้งนี้ยืนยันว่า การชี้แจงครั้งนี้ไม่ได้เป็นคำสั่งจาก ผบ.ทบ. แต่อย่างใด แต่กองทัพบกเกรงว่า ประชาชนอาจเกิดความเข้าใจผิดไปจากข้อเท็จจริงจึงอยากชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงตามหลักฐานที่เกิดขึ้น