โฆษกศาลรัฐธรรมนูญแจง ศาลรับพิจารณาคำร้องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ขัด ม.68 ชี้ตุลาการตีความไว้ชัดประชาชนใช้สิทธิยื่นตรงได้
นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะทีมโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการขัดรัฐธรรมนูญเนื่องจากศาลต้องรับคำร้องจากอัยการสูงสุดนั้น เป็นการตีความของพรรคเพื่อไทยเอง โดยที่ผ่านมา คณะตุลาการได้เคยตีความรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เอาไว้แล้วว่า ประชาชนสามารถใช้สิทธิในเรื่องนี้ผ่าน 2 ช่องทาง คือผ่านทางอัยการสูงสุดและยื่นโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญให้มีการระงับการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย แต่สภายังเดินหน้าประชุมรับร่างในวาระ 3 วันที่ 12 มิ.ย. นั้น ส่วนตัวเห็นว่าหากรัฐสภาเดินหน้าประชุมต่อ ก็ต้องรับผิดชอบกับผลที่จะเกิดขึ้นอย่างที่ตุลาการได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ และยังบอกไม่ได้ว่าถ้ามีการดำเนินการอย่างนั้นจริงศาลจะมีท่าทีอย่างไร เนื่องจากเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น แต่คิดว่าตุลาการฯ คงจะต้องมีการหารือกัน
"ก่อนที่จะให้มีการระงับคณะตุลาการได้มีการพูดคุยกันและพิจารณาแล้วว่า การชะลอการรับร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อน ไม่ได้เกิดความเสียหาย" นายพิมล กล่าว
นายพิมลกล่าวว่า การใช้อำนาจของคณะตุลาการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เป็นการใช้อำนาจในเชิงป้องกันไม่ใช่การแก้ไข ซึ่งการรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่นั้น เป็นดุลยพินิจของคณะตุลาการฯ รวมถึงต้องพิจารณาว่า เป็นไปตามข้อกำหนดวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ในกรณีคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ใช้อำนาจตามข้อกำหนดวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ และได้ให้ตุลาการทั้งหมดเป็นตุลาการประจำคดี คือทั้งองค์คณะช่วยกันพิจารณา ว่าจะรับหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการพิจารณาลักษณะเช่นนี้ก็เคยทำในกรณีการพิจารณา พระราชกำหนด, ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และกรณีขอให้ตรวจสอบความถูกต้องของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ