มติชน 2 มิถุนายน 2555 >>>
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับ 5 คำร้องเกี่ยวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้พิจารณา ทำให้ต้องชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในวันที่ 5 มิ.ย. ว่า การรับคำร้องดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ระบุว่า จะต้องเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งทั้ง 5 คำร้องของพรรคประชาธิปัตย์และแนวร่วมได้ยื่นให้อัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว ดังนั้นต้องรอให้อัยการสูงสุดทำความเห็นก่อนจะรับคดี ไม่สามารถนำคำร้องมายื่นโดยตรงได้ การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องดังกล่าวไว้จึงขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน
ทั้งนี้การที่ประชาชนจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ มีกรณีเดียวคือ ตามมาตรา 112 กรณีที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพที่อาจยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า บทบัญญัติของกฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ต้องเป็นกรณีที่ไม่อาจใช้สิทธิโดยทางอื่นได้แล้ว นอกจากนี้รัฐธรรมนูญปี 50 ไม่ได้ให้อำนาจประชาชน และศาลรัฐธรรมนูญที่จะยื่นและรับคำร้องที่ประชาชนยื่นโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามประมวลกฎหมายอาญา การกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการรับ 5 คำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา จึงเป็นการกระทำผิดต่อตำแห่งหน้าที่ราชการ อาจเข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ และอาจถูกยื่นถอดถอนได้ เพราะเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญที่ชัดเจนมาก ทั้งนี้อดีตคณบดีนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ก็มีความเห็นในทำนองว่า การรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้อาจเข้าข่ายขัดกฎหมาย