“มาร์ค” พร้อมให้ข้อมูล คอป. ย้ำรัฐมีธง เร่งดันกฎหมาย 4 ฉบับ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ คอป. เคยเสนอแนะจัด “สานเสวนา” อย่าทำแบบปกปิด เฝ้าจับตา พท. แบ่ง 19 โซนล่าชื่อหนุน 4 ร่างปรองดอง...
วันที่ 20 มิ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดอง (คอป.) เชิญไปให้ข้อมูล ว่า จะเป็นการสอบถามข้อเสนอต่างๆ ที่มีต่อรัฐบาล และความเห็น รวมทั้งข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพราะอยู่ในช่วงที่จะทำรายงานฉบับสุดท้ายเสนอต่อรัฐบาล ซึ่งจะครบวาระในเดือน ก.ค. นี้ ซึ่งพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ ทั้งนี้ ตนคิดว่า คอป. คงยึดหลักสากลในเรื่องขั้นตอนที่จะนำไปสู่ความปรองดอง ซึ่งโดยปกติต้องมีความชัดเจนเรื่องข้อเท็จจริงก่อน จึงจะนำไปสู่การแลกแปลี่ยนความเห็นตามหลักความรับผิดชอบ ปลายทางจึงค่อยเป็นเรื่องการเยียวยา และพิจารณาว่าจะให้อภัยหรือไม่ ทั้งนี้ คิดว่ารัฐบาลคงไม่ฟังใคร เพราะการพยายามผลักดันกฎหมาย 4 ฉบับ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ คอป. เคยเสนอ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามีธง ปัญหาคือแทนที่รัฐบาลจะใช้ช่วงนี้เพื่อหาทางออก แต่กลับเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองมากกว่า ในทำนองว่ามีประชาชนสนับสนุน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า จะจัดทำสานเสวนาประชาชนว่า ถือเป็นเรื่องดี หากสภาจะเข้ามาดำเนินการ แต่ต้องดูว่าแนวทางจะเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ควรทำแบบใช้สัมพันธ์ส่วนตัวหรือปกปิด เพราะคำว่า ‘สานเสวนา’ ไม่ได้หมายถึงการเอาคนไม่กี่คนมาคุยกัน แต่จำเป็นต้องให้สังคมมีส่วนร่วม ซึ่งกรรมาธิการปรองดองเดิมก็ต้องการให้สภาและสถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพ แต่เมื่อไปถึงรัฐบาลก็ตัดสินใจว่าฝ่ายบริหารจะทำเอง
“ผมคิดว่าไม่สามารถทำแบบปกปิดได้ เพราะวัตถุประสงค์ของการเสวนาคือ การสร้างความเข้าใจร่วมกันของคนในสังคม รวมถึงการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ถ้าใช้วิธีการคุยแบบไม่เปิดเผย อาจทำได้ในบางขั้นตอน แต่สุดท้ายก็ต้องเปิดเผยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งพรรคกำลังติดตามกรณีที่มีการนำเอกสารไปให้ประชาชนเซ็นชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำมาสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรือไม่ เพราะคิดว่ารัฐบาลมีแผนที่จะสร้างความชอบธรรมผ่านหลายกระบวนการ การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่การสานเสวนา และสถาบันพระปกเกล้าได้จัดทำคู่มือระบุชัดว่า การออกแบบสอบถาม ไม่ใช่การลงมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ต้องแลกเปลี่ยนด้วยเหตุผล มีกระบวนการคัดคนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า มีครบทุกภาคส่วน ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำ เพราะต้องการสร้างความชอบธรรมในร่างกฎหมาย แต่ในความจริงแล้วไม่มีความหมายอะไร” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยแบ่ง ส.ส. ออกเป็น 19 สาย โดยอ้างว่าจะชี้แจงประชาชนในเรื่องนี้เช่นกันว่า ตนคาดว่าน่าจะมีการพยายามที่จะไปนำรายชื่อประชาชนมาสนับสนุนกฎหมายนี้ ซึ่งสังคมต้องรู้เท่าทันว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กระบวนการที่จะสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลเดินหน้ากฎหมาย 4 ฉบับ และเห็นว่าการดำเนินการเช่นนี้ไม่ใช่คำตอบที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ มีแต่จะตอกย้ำจุดยืนที่แตกต่างกันมากขึ้น ในส่วนของ คอป. ก็ต้องทำงานให้เสร็จตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ส่วนจะสูญเปล่าเพราะรัฐบาลไม่นำไปใช้หรือไม่ สังคมก็ต้องจับตาดู
