โพสท์ทูเดย์ 27 มิถุนายน 2555 >>>
วงเสวนา 2475 ยัน 80 ปีประชาธิปไตยมีปัญหา อำนาจไม่ได้เป็นของประชาชนชี้ กลุ่มอนุรักษ์นิยม-ทหารเป็นอุปสรรคสำคัญ
พ.ต.พุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา ทายาท "พระยาพหลพลพยุหเสนา" หัวคณะราษฎรผู้นำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 กล่าวระหว่างการเสวนาวิชาการ "80 ปีประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดยังไม่เป็นของราษฎรทั้งหลาย" ว่า เจตนารมณ์ของคณะราษฎร คือ ต้องการให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงตามระบบประชาธิปไตย ซึ่งการอภิวัฒน์สยามในครั้งนั้นคณะราษฎรไม่ได้กระทำบนข้อกล่าวหาชิงสุกก่อนห่ามตามที่ฝ่ายอนุรักษ์ได้ใส่ร้าย แต่เวลานั้นประเทศสยามได้เผชิญกับปัญหาแวดล้อมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจวิกฤตถึงขั้นไม่มีงบประมาณมาจ่ายเงินเดือนให้กับทหาร ซึ่งระบบการปกครองแบบเดิมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
"พระยาพหลพลพยุหเสนาถูกกล่าวให้ร้ายว่าเป็นพวกเนรคุณเพราะได้รับการอุ้มชูในตำแหน่งราชการจากระบบการปกครองแบบเดิมมาตลอด แต่การตัดสินใจกระทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองลงไปเพราะเล็งเห็นว่าระบบประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะสามารถนำพาประเทศให้ก้าวหน้าได้ และที่สำคัญหากคณะราษฎรเนรคุณคิดจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบอื่นก็ได้แต่สุดท้ายก็ไม่ทำเห็นได้จากการให้มีพระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ" พ.ต.พุทธินาถ
นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัญหาและอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยตลอด 80 ปีที่ผ่านมามีด้วยกัน 2 ประการ คือ
1. กลุ่มที่เรียกว่าพวกอนุรักษ์นิยมสุดขั้วโดยยังคิดและเชื่อว่าประชาชนไม่ใช่เจ้าของอำนาจอธิปไตย และเป็นพวกไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
2. การแทรกแซงทางการเมืองของทหารผ่านการรัฐประหาร ซึ่งปัจจัยทั้งสองมีส่วนเชื่อมโยงทำให้ประชาธิปไตยของไทยมีปัญหามาตลอด
นายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ กล่าวว่า ต้องยอมรับตามตรงว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนเพียงในรัฐธรรมนูญหรือทางนิตินัยเท่านั้น แต่ในทางพฤตินัยไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะตลอด80ปีที่ผ่านมาพวกกลุ่มอนุรักษ์นิยมระบอบเก่าพยายามสร้างคำอธิบายต่อสาธารณะมาตลอดประชาชนไม่ใช่เจ้าของอำนาจ
"อย่างไรก็ตามลุ่มคนเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้โดยเฉพาะการกำหนดลงไปในรัฐธรรมนูญในทำนองว่าประชาชนไม่เจ้าของอำนาจอธิปไตย เพราะรู้ดีว่าโลกสมัยใหม่ไม่มีใครยอมรับอำนาจที่ไปรวมศูนย์อยู่ที่เพียงจุดเดียวแล้วแต่ยอมรับการแบ่งแยกอำนาจโดยยึดหลักอำนาจเป็นของประชาชน" นายปิยบุตร กล่าว