ภท. แจงเหตุไม่ลงชื่อสอย ‘ขุนค้อน’ เหตุ ปชป. ไม่ได้เชิญ ย้อนเป็นฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยทุกเรื่อง
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงสาเหตุที่พรรคไม่มี ส.ส. ของพรรคร่วมลงชื่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อยื่นถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า เนื่องจากไม่ได้รับแจ้งจากพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์แจ้งให้ทราบทางจะได้เรียกประชุม ส.ส. ว่าจะมีการร่วมดำเนินการหรือไม่
“แต่ตามที่ทราบมา พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ได้ร่วมลงชื่อกันทุกคน เช่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้านก็ไม่ได้ลงนาม อย่างไรก็ตามแม้จะอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน แต่บางเรื่องก็ถือเป็นเอกเทศของแต่ละพรรค ไม่ได้หมายความว่าจะต้องดำเนินการเป็นเอกภาพเสียทุกเรื่อง “นายศุภชัย กล่าว
ก่อนหน้านี้นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยได้นำรายชื่อ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านจำนวน 127 คนยื่นต่อ พล.อ .ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ออกจากตำแหน่งประธานรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 เนื่องจากวางตัวไม่เป็นกลางและปฏิบัติหน้าที่ขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญจากกรณีบรรจุร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ทั้ง 4 ฉบับเข้าสู่ระเบียบวาระทั้งที่มีข้อสงสัยว่าเป็น พ.ร.บ.การเงิน ตามมาตรา 143 หรือไม่
นายถาวร กล่าวว่า นายสมศักดิ์มีพฤติการณ์ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 125 เพราะวางตัวไม่เป็นกลาง ซึ่งการบรรจุร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่สภา จึงมีความผิดชัดเจนเนื่องจากร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับดังกล่าวมีลักษณะเข้าข่ายเป็น พ.ร.บ.การเงิน เพราะ บทบัญญัติของกฎหมายได้ครอบคลุมถึงการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน เพื่อคืนเงินให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท และ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 800-900 ล้านบาท
“ทั้งนี้ได้มีการเตือนนายสมศักดิ์แล้ว ว่าควรเรียกประชุมคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา 35 คณะ แต่นายสมศักดิ์ยังดึงดันจะนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่สภา ถึงจะเรียกประชุมตอนนี้ก็ไม่มีผล เพราะถือว่าทำความผิดเป็นผลสำเร็จแล้ว” นายถาวร กล่าว