อย่าขวาง !?

ข่าวสด 4 พฤษภาคม 2555 >>>




ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่คนไทยต้องการมากที่สุดในเวลานี้คือความปรองดอง
เพราะความปรองดองนำประเทศชาติฝ่าวิกฤตความขัดแย้งไปได้
เห็นได้จากการสำรวจความคิดเห็นของโพล 2 สำนักที่ออกมา ตรงกัน
ทั้งเอแบคโพลและสวนดุสิตโพล
49.8 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าการที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ารดน้ำดำหัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
สร้างความปรองดองได้ดีกว่าการออกกฎหมายปรองดองและนิรโทษกรรม
เพราะเป็นรูปธรรม รวดเร็ว และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
54.79 เปอร์เซ็นต์ พึงพอใจกับการพบปะกันครั้งนี้ เพราะแสดงถึงความตั้งใจจริง และเป็นจุดเริ่มต้นสร้างปรองดอง
ที่สำคัญมีมากถึง 73.1 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่ามีขบวนการ "ขัดขวางความปรองดอง" เพราะเกี่ยวข้องกับการสูญเสียทั้งอำนาจและผลประโยชน์ ถ้าประเทศชาติมีความสงบสุขอย่างแท้จริง
เสียงสะท้อน 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ นี้บ่งบอกชัดเจนว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับคนที่ออกมาขัดขวาง-ต่อต้านการปรองดอง
เป็นเสียงสะท้อนที่พรรคประชาธิปัตย์สมควรรับฟังเป็นอย่างยิ่ง
เพราะท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่หัวขบวน ยันลูกแถว ดาหน้าขัดขวาง การพบปะกันระหว่างนายกฯ ยิ่งลักษณ์กับ พล.อ.เปรม อย่างชัดเจน
ขนาดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงกลับยอมสลัดมาดอดีตผู้นำประเทศ ให้สัมภาษณ์แบบพูดไปตำไป ให้คนเสื้อแดงกับรัฐบาล งัดกัน ต่อปากต่อคำกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่เว้นแต่ละวัน
แก๊งสามเกลอก็สนุกสนานอยู่กับการยุให้รำตำให้รั่ว
ในเมื่อเสียงประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นความปรองดองในชาติ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องตอบสังคมให้กระจ่าง
ชี้แจงให้ชัดว่าเหตุผลที่เคยขัดขวางการพบปะกันระหว่างนายกฯ ปูกับป๋า หรือการต่อต้าน พ.ร.บ.ปรองดอง ในสภา
ไม่ใช่เพราะกลัวสูญเสียทั้งอำนาจและผลประโยชน์ หากชาติเกิดความสมานฉันท์