สารพัดม็อบเริ่มระดมพล เตรียมบุกสภา

ไทยรัฐ 30 พฤษภาคม 2555 >>>




ม็อบผู้สนับสนุน-คัดค้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ทยอยรวมตัวหน้ารัฐสภา ซึ่งที่ประชุมสภาฯ จะนำร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังเต็มอัตรา ป้องกันม็อบทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้า มีการปิดถนนอู่ทองในทั้ง 2 ฝั่งแล้ว แนะผู้ใช้รถใช้ถนนเลี่ยงเส้นทาง...

วันนี้ (30 พ.ค. 2555) ต้องจับตาการนำร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ เข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งมีการยื่นทั้งหมด 4 ร่าง ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่เสนอโดยพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ และส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล มีสาระสำคัญอยู่ที่การให้ใช้หลักเมตตาธรรมด้วยการให้อภัยและให้โอกาสกับทุกฝ่าย ซึ่งล้วนมีเจตนาดีต่อชาติบ้านเมือง อันเป็นไปตามประเพณีที่ประเทศไทยเคยปฏิบัติมาแล้วหลายครั้ง และเป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วยการนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิด อันมีสาเหตุจากความขัดแย้งทางการเมือง โดยมาตรา 4 คือการให้ระงับการดำเนินการคดีใดๆ กับการกระทำของบุคคลที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมือง และการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และไม่ตัดสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง
ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่เสนอโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งสาระสำคัญคล้ายกับร่างของพลเอกสนธิ แต่จะแตกต่างที่การนิรโทษกรรมในครั้งนี้จะไม่รวมถึงการกระทำอันเป็นความผิดฐานก่อการร้าย และความผิดต่อชีวิต ตลอดจนยังให้เรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งได้อีกด้วย
ขณะที่ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่เสนอโดย นายนิยม วรปัญญา ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นการนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำผิดก่อนและหลังวันที่ 19 ก.ย. 2549 รวมทั้งให้คืนสิทธิ์เลือกตั้งกับคนที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์ แต่จะไม่ให้สิทธิ์ในการเรียกร้องผลประโยชน์ทางแพ่งใด รวมถึงร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติที่เสนอโดย นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เพื่อไทย กำหนดให้ผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิด และยังให้ถือว่าไม่เคยต้องคำพิพากษา และสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ด้วย อีกทั้งยังให้คืนสิทธิ์เลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศหน้ารัฐสภาตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งผู้สนับสนุนและคัดค้าน เดินทางมารวมตัวหน้ารัฐสภาโดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ ขณะที่ตำรวจปราบจลาจลได้ตรึงกำลังอยู่เต็มพื้นที่ มีการเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 900 นาย เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่มเผชิญหน้ากัน ซึ่งได้ใช้แผงเหล็ก แท่งปูน และลวดหนามกั้นบริเวณทางแยกถนนอู่ทองใน โดยทางกองบัญชาการตำรวจจราจรได้แจ้งว่า มีการปิดการจราจรถนนอู่ทองในทั้ง 2 ฝั่งแล้ว ในช่วงเช้า ซึ่งผู้ใช้เส้นทางจากถนนราชวิถีให้เลี่ยงไปใช้ถนนพระรามที่ 5 ส่วนผู้ที่มาจากถนนราชดำเนินนอกให้เลี่ยงไปใช้ถนนศรีอยุธยาแทน