การวิดีโอลิงก์ ปราศรัยในโอกาสครบ 2 ปี สลายชุมนุมคนเสื้อแดง ของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เปรียบ "เสื้อแดง" ดั่ง "เรือ" ซึ่งวันนี้ส่งเขา "ถึงฝั่ง" แล้วหลังจากนี้ เขาจะ "นั่งรถ" ไปต่อเองกลายเป็นประเด็นหลักของการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ "มวลชนคนเสื้อแดง" กันไปต่างๆ นานา
ในรายของ "พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)" ตัดสินปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ" ทิ้ง "คนเสื้อแดง..."
ฝ่าย "แกนนำคนเสื้อแดง" ใน "พรรคเพื่อไทย (พท.)" ยืนยันว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ" ไม่ได้หมายความเช่นนั้น...
กระทั่ง "นพดล ปัทมะ" ที่ปรึกษากฎหมาย "พ.ต.ท.ทักษิณ" ต้องออกแถลงการณ์ย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่าง "พ.ต.ท.ทักษิณ" และ "คนเสื้อแดง" ที่ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่กระนั้น กระแสเสียงของ "แนวร่วมเสื้อแดง" หลากหลายกลุ่มก็ยังไม่ตรงกัน
โดยเฉพาะในรายของ "สมบัติ บุญงามอนงค์" หรือ "บ.ก.ลายจุด" หนึ่งในแนวร่วมกลุ่มสำคัญของ "มวลชนคนเสื้อแดง" ที่เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเรียกร้องประชาธิปไตย ช่วง "แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)" ถูกจองจำหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุม 19 พฤษภาคม 2553 กับการทวีตข้อความผ่าน @nuling ว่า "ในวันนี้เสื้อแดงกำลังเป็นโรคเบื่อทักษิณ"
สร้างข้อสงสัยในความสัมพันธ์ของ "ขบวนการเสื้อแดง" กับ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ในสายตาของสาธารณชนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง
"มติชน" ฉวยโอกาสคุยกับ "สมบัติ" เพื่อหาคำตอบที่หลายๆ ฝ่ายข้องใจ...
"ผมปรี๊ดแตกมากนะ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าเสื้อแดงเหมือนเรือ แล้ววันนี้ขึ้นฝั่งแล้ว ... เรือก็อาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ผมว่าเขาหลงตัวเองมากไป !" คือคำพูดแรกของ "หนูหริ่ง" ถึงคำปราศรัยของ "อดีตนายกรัฐมนตรี"
เขามองว่า ขณะนี้ "ขบวนคนเสื้อแดง" ทั้งขบวน ใหญ่โตกว่าที่ พท. มองว่าเป็นมวลชนที่สนับสนุนแล้ว
ดังนั้น "คนเสื้อแดง" จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมา "วิจารณ์ตัวเอง" เพื่อทบทวนแนวทางการเดินต่อ ว่าจะเดินไปสู่เป้าหมายของ "ตัวเอง" คือ "สังคมที่เป็นธรรม" อย่างไร
"สิ่งที่ คนเสื้อแดง ยังขาดอยู่ คือวัฒนธรรมการวิจารณ์ตัวเอง" สมบัติวิเคราะห์
เขาขยายความว่า หาก "คนเสื้อแดง" วิพากษ์วิจารณ์กันเองบ้าง ก็จะเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้เกิดการปรับตัว
"แน่นอนว่า คนเสื้อแดงต้องอาศัย พท.ในการเคลื่อนไหวในสภา แต่ก็อย่ามองว่าคนเสื้อแดงเป็นหมูในอวย ไม่เช่นนั้นปทุมธานีโมเดลจะเกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งแน่นอนว่าการเลือกตั้ง ส.ส. คนเสื้อแดงไม่เลือก ปชป. อยู่แล้ว แต่ในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ไม่มี ปชป. ก็จะกลายเป็นว่าไม่เลือก พท."
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือ "จะต้องฟัง (เสียงวิจารณ์) มวลชนบ้าง !!!"
"ประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องรับเหมา เหมือนบริษัทที่จะต้องรอคำสั่งจากบนลงล่าง แต่ประชาธิปไตยเป็นเรื่องของมวลชน ซึ่งจะต้องฟังเสียงมวลชน ไม่เช่นนั้นข้อเสนอไพรมารีโหวตคงไม่เกิดขึ้น...คุณลองใช้วิธีนี้ดูสักจังหวัดสิ !!! เป็นไปได้ที่ผู้สมัครที่ประชาชนเลือกอาจจะไม่ใช่คนที่มาจาก พท. ด้วยซ้ำ เพราะวันนี้ พท.ยังเล่นการเมืองแบบเก่า มีกลุ่ม มีก๊ก มีมุ้ง (ส่ายหน้า) สิ่งที่เราเสนอคือให้มีวิธีคิดแบบใหม่ ที่ให้ฟังจากล่างขึ้นบนบ้าง" สมบัติ อธิบาย มุมมองของเขา
บ.ก.ลายจุด วิเคราะห์ว่า ที่ผ่านมา นปช.ยังติดกับดักอยู่กับการสร้างวาทกรรมโจมตีอำมาตย์ โดยไม่ได้คิดถึงอนาคตว่าแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะมันกำลังจะเป็นกลุ่มพันธมิตร (พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) ที่ติดกับดัก มัวแต่โจมตีทักษิณว่าน่าเกลียดน่ากลัว แต่พอถูกถามว่าแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ก็กลับไปคิดกัน 2-3 วัน แล้วออกมาเป็นข้อเสนอ 70:30 ซึ่งมันก็แป้ก...วันนี้ถ้าทำไม่ดี เสื้อแดง ก็อาจจะลงร่องเดียวกับพันธมิตรได้
"คนเสื้อแดง ไม่ควรเข้าใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นหัวขบวนรถจักร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแค่ผู้โดยสารคนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากการขับเคลื่อนต่างๆ ที่ผ่านมานั้นไม่มีทางเลยที่ประเด็นของคนคนเดียวจะสร้างขบวนการใหญ่โตขนาดนี้ได้ ในวันนี้ลอง พ.ต.ท.ทักษิณหันกลับมาดูขบวนการเสื้อแดงทั้งหมดก็อาจจะขนลุก เพราะคนเสื้อแดงที่เขาโดยสารมาด้วยนั้นอาจจะไม่ใช่แค่เรืออย่างที่หลายๆ คนคิด
บ.ก.ลายจุด ทิ้งท้ายให้ทั้ง "คนเสื้อแดง" - "พท." - "แนวร่วม" ไปจนถึง "พ.ต.ท.ทักษิณ" ได้ทบทวนบทบาทของตัวเอง หลังจากนี้ !!!