มติชน 20 พฤษภาคม 2555 >>>
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค พท. แถลงว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ โดยมี ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่อ้างว่ามาจากฝ่ายกฎหมายจะยื่นคำร้องให้ยุบพรรค พท. นั้น ขอชี้แจงในฐานะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พท. ว่ามูลเหตุข้อเท็จจริงจาก นายจตุพรถูกคุมขังในวันเลือกตั้งทำให้ศาลเห็นว่าสมาชิกภาพพรรคการเมืองนายจตุพรสิ้นสุดลงและทำให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญด้วย ไม่ได้เกิดจากการกระทำของ พท. และ กก.บห. หรือหัวหน้าพรรค พท. แต่อย่างใด แต่เป็นข้อเท็จจริงรับรู้ทั่วไป และเหตุผลวินิจฉัยก็เป็นเหตุผลทางกฎหมายแตกต่างกัน ซึ่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสียงข้างน้อยก็ไม่ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของนายจตุพรสิ้นสุดลง เพราะในวันที่พรรคส่งรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นั้นนายจตุพรก็ยังเป็นสมาชิกพรรรคอยู่ และ กกต. ก็ได้ประกาศรับรองการสมัครของนายจตุพร แต่เหตุที่ศาลเห็นว่าสมาชิกภาพพรรคของนายจตุพรสิ้นสุดลงเพราะว่าในวันเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 นายจตุพรยังถูกคุมขัง ถ้านายจตุพรได้รับการปล่อยตัวก็ไม่เป็นเหตุให้ขาดความเป็นสมาชิกพรรค การที่หัวหน้าพรรคและ กก.บห.พรรค พท. มีมติส่งนายจตุพรลงสมัคร ส.ส. เป็นไปโดยถูกต้องสมบูรณ์ไม่มีเหตุให้ยื่นคำร้องยุบ พท.ได้
"ขอให้ ปชป.ไปอ่านคำให้สัมภาษณ์นายวสันต์ สร้อยพิสุทธ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญอย่าหลับหูหลับตาร้อง พท. อีกทั้งนายณรงค์เดช สรุโฆษิต อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็มองว่าการรับรองเอกสารก็ไม่เป็นเท็จจึงเป็นเหตุยุบ พท. ไม่ได้ ถ้า ปชป. ยุบ พท. โดยไม่สุจริตผมก็ยื่นร้องกลับให้ยุบพรรค ปชป.ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 104 กรณีพรรคการเมืองหรือผู้ใดสมคบ รู้เห็นเป็นใจ หรือสนับสนุนให้บุคคลใดดำเนินการใด เพื่อให้บุคคลอื่นหรือ กกต. หลงเชื่อหรือเข้าใจว่าพรรคการเมืองอื่นหรือบุคคลใดกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง" นายพร้อมพงศ์ กล่าว