ค้านจัดชุมนุม ป่วนธุรกิจ ราชประสงค์

ไทยรัฐ 18 พฤษภาคม 2555 >>>




นายกรณ์ จาติกวณิช นำสมาชิก ปชป.ชิงตัดหน้าเสื้อแดงจัดงานรำลึก 2 ปี แยกราชประสงค์ ชู สันติอหิงสา ยุติความรุนแรง พร้อมแสดงจุดยืนคัดค้าน การจัดการชุมนุมและการแสดงออก สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการ...

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อม ส.ส.กรุงเทพฯ ตลอดจน ส.ก. และ ส.ข. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกิจกรรมงานการเมืองภายใต้ชื่องาน “สันติภาพ สันติอหิงสา ค้นหาความจริง รำลึกเหตุการณ์ 19 พ.ค. 53 ครบรอบ 2 ปี แห่งความรุนแรง” ซึ่งถือเป็นความสูญเสียของคนไทยทั้งชาติ โดยได้มีการปล่อยลูกโป่งสีขาว 500 ลูก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการยุติความรุนแรง และความสงบสุข จากนั้นได้ร่วมจัดริ้วขบวนทั้งหมด ก่อนเดินเท้าจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์ไปยังวัดปทุมวนาราม เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายสังฆทานให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 19 พ.ค. จะครบรอบ 2 ปี ของเหตุการณ์ 19 พ.ค. 53 จากความสูญเสีย ระหว่างการชุมนุมทางการเมืองที่สี่แยกราชประสงค์ ตนพร้อมด้วย ส.ส., ส.ก. และ ส.ข. ของพรรคตั้งใจ จัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ตอกย้ำเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรุนแรงและความขัดแย้งซ้ำรอยกับ 2 ปีที่แล้ว ด้วยการยึดหลักสันติอหิงสา ค้นหาความจริง ซึ่งเชื่อว่าความสงบจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสังคมให้ความสำคัญกับการค้นหาความจริงเพื่อพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม และอยากส่งสัญญาณไปยังผู้ประกอบการ นักธุรกิจ นักลงทุนและประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการแสดงออกที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และคนทำมาหากินในพื้นที่ต่างๆ จึงอยากใช้โอกาสนี้ให้ทุกฝ่ายได้เห็นความสำคัญว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องยึดหลักอหิงสา และอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมได้พิสูจน์ความจริง ซึ่งเชื่อว่าสังคมไทยจะมีการให้อภัยเกิดขึ้น แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง โดยไม่มีการบิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดอีก วอนสังคมไทยร่วมใส่ใจปัญหาชาติ
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ความสูญเสียที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่คนไทยควรถามตัวเองว่า ได้มีบทบาทในการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ ตนไม่คิดที่จะใช้โอกาสนี้โทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้น คนไทยต้องร่วมกันรับผิดชอบ ไม่ใช่ชี้นิ้วโทษคนอื่น โดยที่ไม่ได้ทบทวนตัวเอง เพราะจะทำให้ไม่เกิดการเรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งในอนาคต และอยากให้คนไทยได้ช่วยกันมีส่วนช่วยสร้างสังคมที่เป็นธรรม ต่อต้านการทุจริต รักษาระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และปกป้องสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยของประเทศ โดยไม่ปล่อยให้ใครนำเอาคำว่าประชาธิปไตยมาแสวงหาประโยชน์ทางการเมือง คนไทยต้องไม่ยอมในเรื่องนี้ นี่คือบทเรียนที่สำคัญจากเหตุการณ์ทั้งหมด