จากกรณีที่รัฐสภามีแนวคิดลดการใช้เอกสารโดยพยายามเปลี่ยนมาใช้ซีดี หรือใช้อีเมล์กันมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ส.ส. และ ส.ว. ก็นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างโทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก ไอแพด มาใช้กันแพร่หลาย
แต่บนความทันสมัยก็มี ส.ส. และ ส.ว. บางส่วนนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ในทางไม่ถูกต้อง จนเกิดกรณีมีภาพโป๊โผล่ขึ้นกลางจอทีวีในระหว่างการประชุมสภา หรือ ส.ส. ดูภาพที่ไม่เหมาะสมในขณะร่วมประชุม
ล่าสุด เกิดกรณีมีการแอบถ่ายภาพ ส.ส. กดบัตรแทนกัน แล้วนำมาเผยแพร่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก
จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จำเป็นที่ ส.ส.-ส.ว. ต้องมีการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นให้มากขึ้นและจำเป็นต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่ ดังนี้
วัฒนา เซ่งไพเราะ
โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร
ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันล้ำสมัย จน ส.ส. ต้องมานั่งเรียนรู้เทคโนโลยีมากกว่าเรียนรู้การทำหน้าที่ ในสภา หรือการทำหน้าที่ เพื่อผ่านงานกฎหมายหรือ งานต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประเทศ
การนำประเด็นภาพโป๊ที่โผล่กลางสภา หรือแม้แต่การ นำคลิป หรือภาพนิ่ง ส.ส. กดบัตรแทนกัน ผมไม่เข้าใจว่าตอนนี้เขาเล่นเกมการเมืองกันแบบนี้แล้วหรือ เอามือถือขึ้นมาถ่ายรูป มีกล้องปากกา กล้องกระดุมคอยจับผิด ทำให้ ส.ส.-ส.ว. ต้องมาคอยระวังเรื่องแบบนี้ แทนที่จะเอาเวลามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนไม่ดีกว่าหรือ
ผมยังคิดอยู่ว่าอยากเสนอประธานรัฐสภาให้มีชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษมาร่วมอยู่ในการประชุมสภาด้วยเลย เพื่อเวลาถ้าทำอะไรผิดกัน ก็ชี้ตัวบุคคลๆนั้น เพื่อเป็นความผิดทางคดีอาญาซึ่งหน้ากันไปเลย ไม่ต้องสุ่มดักถ่ายรูปถ่ายคลิป แล้วเอามาร้องคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร หรือร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน
อีกทั้งเวลาถ่ายก็ไม่กล้าจริง ไปถ่ายในลักษณะ ข้างๆ มุมๆ แล้วอย่างนี้จะไปชี้ความผิดกันชัดเจนได้อย่างไร ต้องมานั่งสอบสวนกันอีก ซึ่งเสียเวลาการทำหน้าที่ของผู้แทนประชาชน
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
จากปัญหาการนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับมือถือมาใช้ในสภา ทั้งกรณีภาพโป๊หลุดกลางสภา คลิปต่างๆ จนกลายเป็นประเด็นวิจารณ์ทางการเมืองและนำมาโจมตีเพื่อหวังผลทางการเมืองนั้น ผมเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องอบรมเพิ่มเติม
เนื่องจาก ส.ส. หรือ ส.ว. ที่ซื้ออุปกรณ์สื่อสารเหล่านั้นมาใช้ก็ต้องเรียนรู้วิธีการใช้งาน ฟังก์ชันต่างๆ ของสมาร์ตโฟนไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตามมาบ้างแล้ว เพื่อให้รู้เท่าทันเทคโนโลยีในระดับหนึ่ง
ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือหรือเทคโนโลยี แต่อยู่คนใช้งาน อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
ปัญหาที่เกิดขึ้นกลางสภา ถือเป็นบทเรียนที่ดีที่ ส.ส. พึงระวังการใช้สมาร์ตโฟนทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอส หรือแอนดรอยน์นั้น สามารถเชื่อมโยงไปยังจอแสดงภาพแอลซีดีได้
ส่วนภาพโป๊ที่มีการเปิดดูกันในสภา ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นสถานที่ทรงเกียรติ หากไปดูคนเดียวคงไม่เป็นปัญหา ดังนั้น ส.ส. ต้องระวังตัวมากขึ้น จะไปดูอะไรก็ตามควรดูในสถานที่ส่วนตัว
แต่เหตุการณ์เช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกจนเป็นการเปิดช่องให้ถูกวิจารณ์ได้ แต่ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับ ส.ส. และ ส.ว. ต้องระวังให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
วิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือแก้ที่ตัวบุคคล เป็นเรื่องของ ผู้ใช้งานต้องดูแลให้ดี ต้องเรียนรู้การใช้งาน แอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้มากขึ้น
ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้คงไม่ต้องอบรมหรือแนะนำวิธีการใช้งาน เพราะปัญหาคือตัวบุคคลที่ควบคุมอุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้ที่ต้องพึงระวังเพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียกับตัวเองและสถานที่ขึ้นอีก
กรวีร์ ปริศนานันทกุล
ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา
ถือเป็นข้อดีที่ ส.ส. ควรจะต้องปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยไปมากแล้ว เพราะอย่างที่สภาเอง ทางคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรก็มีนโยบายกำลังเตรียมลดการใช้เอกสารลง โดยหันมาใช้การโหลดข้อมูลลงแผ่นซีดี การติดต่อสื่อสารกันทางอีเมล์ การใช้ไอแพดกันมากขึ้น เพื่อลดการใช้เอกสารลง เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์
แต่เราต้องยอมรับว่าขณะนี้มี ส.ส. มากกว่าครึ่งหนึ่งของสภาที่เป็นผู้สูงวัย คงต้องมีการปรับตัวในการใช้เทคโนโลยีให้ทันสมัย
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลางห้องประชุมสภานั้น ผมเชื่อว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของการปรับตัวตามเทคโนโลยี แต่คงไม่เฉพาะอาชีพนักการเมืองเท่านั้น คิดว่าต้องทุกๆ อาชีพ ถ้าจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยก็ต้องระมัดระวัง เพราะถ้าใช้ไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้
เป็นเรื่องจำเป็นที่พวกเราต้องปรับตัวให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเร็วเหลือเกิน แต่ผมก็ดีใจที่ท่านสมาชิกบางคนที่มีอายุมากๆ เห็นเขาใช้ไอโฟนถือไอแพด ถ้าใช้เป็นก็เป็นประโยชน์และเป็นสิ่งที่ดีมาก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ที่ว่าถ้าใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกาลเทศะก็คงไม่มีปัญหาอยู่ในห้องประชุมสภาจะมัวไปนั่งเปิดรูปที่ไม่ถูกไม่ควรก็คงไม่เหมาะสม หรือถ้าจะหยิบขึ้นมาโหลดโน่นโหลดนี่หรือเปิดดูสื่อที่ไม่เหมาะสม แทนที่จะเป็นประโยชน์ก็จะเป็นโทษมากกว่า
อย่างผมก็ตั้งกติกากับตัวเองว่าต้องทำตามระเบียบข้อบังคับสภาที่ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารเข้ามาภายในห้องประชุม และระเบียบยังระบุอีกว่าถ้าจะโทรศัพท์หรือใช้เครื่องมือสื่อสารใดๆ ขอให้ออกไปใช้นอกห้องประชุม
สมชาติ พรรณพัฒน์
ส.ว.นครปฐม
หาก ส.ส.-ส.ว. ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และเราไม่จำเป็นต้องระแวดระวังอะไรเลย เพราะเราคงไม่สามารถไปห้ามคนที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือทางเกมการเมืองได้
ต้องยอมรับว่าขณะนี้สมาชิกบูมเรื่องเหล่านี้กันอยู่ แต่ถ้าไปสั่งควบคุม งดการนำอุปกรณ์เหล่านี้เข้าห้องประชุมสภาหรือห้องประชุมคณะกรรมาธิการต่างๆ เชื่อเถอะว่าคงยาก ไม่มีทางเป็นได้ที่ใครจะมายอมถูกจำกัดสิทธิเช่นนี้
เรื่องนี้จึงอยู่ที่จิตสำนึกและจริยธรรมของแต่ละคนแล้วว่าจะคิดเห็นอย่างไร จะใช้เครื่องมือเหล่านี้เอาดีใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่นกันหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากกรณีแอบถ่ายภาพส.ส.กดบัตรแทนกันนั้น เรายังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่แน่ชัด แต่ส่วนตัวสันนิษฐานว่า ภาพบุคคลที่ยื่นมือกดบัตรแทนนั้น ทำไมไม่ให้คนข้างหลังยื่นมือมาข้างหน้ากดบัตรแทนจะง่ายกว่าหรือไม่
ทางคณะกรรมการสอบกดบัตรแทนกันของสภา นัดสอบข้อเท็จจริงในวันจันทร์ที่ 30 เม.ย. ซึ่งเราต้องเร่งรีบในกรอบ 7 วัน และไม่ใช่แค่ทำตามกำหนดวัน แต่เป็นเรื่องกระทบภาพลักษณ์สภาอันทรงเกียรติของไทยด้วย
ผมอยากเห็นการประชุมสภาเป็นไปในทางสร้างสรรค์ ขอให้เอาเรื่องจริง อย่าไปสร้างเรื่องให้ส่วนรวมเสียหาย
การกระทำที่นำสภามาร่วมรับผลแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ทำได้อย่างไร เพราะนอกจากประชาชนจะรู้สึกเอือมระอาแล้ว การเดินหน้าของประเทศต้องหยุดชะงักตามไปด้วย
ในเมื่อได้รับหน้าที่มาเป็น ส.ส.-ส.ว. อาสาเป็นตัวแทนประชาชนมาแล้วขอให้ทำงานอย่างสุจริต อย่าสร้างปัญหา สร้างเรื่องเท็จจนกลายเป็นสภาโจ๊กแบบนี้อีกเลย
