“อภิสิทธิ์” ติงเลือก ส.ส.ร. ใช้กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น แนะใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ว. หรือเขียนให้ชัดห้ามการเมืองยุ่ง เตือน รัฐหลงอำนาจจะนำไปสู่วิกฤติขัดแย้งรอบใหม่...
ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ ... พ.ศ..... ระบุการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยให้ใช้ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นว่า อยากตั้งคำถามต่อ กมธ. เพราะตนเป็นผู้แปรญัญติ คือ กมธ. เสนอให้ใช้ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ก็มีข้อสังเกตว่า การใช้กฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นหมายถึง พรรคการเมืองสามารถส่ง ส.ส.ร. ลงสมัครรับเลือกตั้งได้หรือ และที่ฟังมาตลอดก็ไม่เห็นมีใครบอกว่า จะใช้รูปแบบนี้ จึงคิดว่า ทำไมไม่ใช้กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ว. เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง แต่เป็นเรื่องการแนะนำตัวในการมาทำหน้าที่ก็คงจะไม่ต่างกับ ส.ส.ร. มากนัก ในเรื่องของแง่กฎหมายหรือแง่การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ออกมาสนับสนุนให้ใช้ พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นมาใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ร. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กกต. คงมองข้ามประเด็นเรื่องพรรคการเมือง เมื่อถามย้ำว่า กกต. อ้างว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณและใช้งบประมาณน้อยลง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะเรื่องที่ กกต. เป็นห่วง คือเรื่องสิ้นเปลืองและการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งในรัฐธรรมนูญแก้ไขก็เขียนไว้อยู่แล้วว่า บทไหนที่อยากจะยกเว้นก็สามารถทำได้ ฉะนั้นถ้าอยากจะใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ว. แต่ไม่ให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าก็ทำได้ แต่ถ้าไปกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วจะไปห้ามไม่ให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัคร ไม่สามารถทำได้ เชื่อว่าทุกคนก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ
เมื่อถามว่า คิดว่าระบบการทำงานของสภาฯ แตกต่างจากปี 48 ในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเคยเตือนแล้วว่า วิกฤติความขัดแย้งทั้งหมดเกิดจาการใช้อำนาจเวลาที่มีเสียงข้างมากโดยไม่มีขอบเขต เพราะถ้าทำอย่างนั้นความขัดแย้งจะเกิดขึ้นอีกและควรมีบทเรียน
“วันนี้ก็คงจะย้อนกลับไป ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า มีการห้ามพรรคฝ่ายค้านฯ ออกโทรทัศน์อะไรต่างๆ และเป็นเรื่องที่ไม่เรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมา แต่การปิดกั้นพื้นที่ในการแสดงออกตามวิถีการของระบอบประชาธิปไตย สุดท้ายก็มักจะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การใช้เสียงข้างมากโดยละทิ้งความชอบธรรมกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในที่สุดก็จะกระทบ ซึ่งก็เหมือนกับสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ 377 เสียง แต่สุดท้ายก็นำไปสู่วิกฤติ เพราะไม่รู้จักการใช้เสียงข้างมากโดยมีขอบเขต เมื่อถามว่า ถ้ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ทำสำเร็จทั้งเรื่องการนิรโทษกรรม และเรื่องการลบล้างคดีของ คตส.ทั้งหมด ความปรองดองจะเกิดขึ้นในชาติได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะกลายเป็นปมความขัดแย้งใหม่