โพสท์ทูเดย์ 20 เมษายน 2555 >>>
รัฐสภาผ่านร่างแก้ รธน. มาตรา 291/2 ด้วยมติ370ต่อ124เสียง กำหนดคุณสมบัติ สสร. อายุ 35 ปีไม่ต้องจบ ป.ตรี
ในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม ในวาระ 2 ของหมวด 16 มาตรา 291/2 ถึงคุณสมบัติของบุคคลผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งเป็นการพิจารณาเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่องจากการอภิปรายในวันที่ 19 เม.ย.
โดยบรรยากาศการอภิปรายเป็นไปอย่างจืดชืดการอภิปรายของสมาชิก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปอย่างหลากหลาย และส่วนใหญ่ ยังคงวนเวียนอยู่ในประเด็นเดิมๆในเรื่อง ของผู้มีสิทธิ์รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ร. ในเรื่อง อายุ ทะเบียนที่อยู่อาศัย และวุฒิการศึกษาที่ส่วนใหญ่แปรญัตติเสนอให้มีคุณสมบัติการศึกษาควรจะต้องจบ ปริญญาตรี
คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า มาตรา 291/1 ถึง 291/17 เป็นกระบวนการสร้างลูกทรพีในท้องแม่ ตนไม่เห็นด้วย อยากถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ถือเป็นการปฏิวัติรัฐประหารตัวเองใช่หรือไม่ ขอให้ท่านอย่าอ้างเสียงข้างมากจนพร่ำเพื่อ ท่านเสนอให้โหวตทีไรก็ชนะทุกที เสียงข้างมากไม่ใช่ถูกต้องเสมอไป แต่มันต้องชอบธรรมด้วย ซึ่งบุคคลที่จะเข้ามาสู่การเป็น ส.ส.ร. มีความสำคัญมาก โดยจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง ซึ่งอายุไม่ใช่เป็นตัวกำหนดวุฒิภาวะ เนื่องจากบุคคลบางคนที่มีอายุเยอะยังไม่รู้เลยว่าอะไรควร หรือไม่ควร และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่รับสมัครเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 3 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานในที่ประชุม ได้ขอหารือในเรื่องกรอบเวลาการอภิปราย โดยขอให้วิป 3 ฝ่ายไปตกลงกำหนดการบริหารเวลาอภิปราย เนื่องจากจะต้องลงมติในวาระ 3 ในวันที่ 8 พ.ค. ที่จะถึง ซึ่งจะทำให้การอภิปรายจะสิ้นสุดไม่เกินเวลา 24.00 น. ของวันอาทิตย์ ที่ 22 เม.ย.
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ส.ส.ร. ต้องมีคุณสมบัติไม่น้อยกว่าสมาชิกสภา เพราะมายกร่างกฏหมยใหญ่ที่สุด คุณสมบัติต้องมี คือความมีเป็นอิสระทางการเมือง ไร้ผลประโยชน์ทับซ้อนมีคุณธรรมจริยธรรม มีคุณวุฒิการศึกษา มีวิสัยทัศน์นำพาประเทศนี้ไปได้ อายุไม่ควรต่ำกว่า 40 ปี การจะมาร่างกฏหมายใหญ่ขนาดนี้ไม่มีความรู้ไม่ได้ ไม่เป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาก่อน ต้องปราศจากทางการเมือง
นายวรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า กำหนดคุณสมบัติ ส.ส.ร. ต้องเอาจริง เพราะจะต้องมาทำหน้ที่เปลี่ยนแปลงบ้านเมืองใหม่ ในเรื่องอายุการที่จะเอาคนมาทำงาน คิดว่าอายุ 30-35 ปี คนวัยนี้ยังต้องสร้างเนื้อสร้างตัวครอบครัว กังวลว่าหากมีผลประโยชน์เข้ามาใจหวั่นไหว จึงเห็นว่าควรอายุ 40 ปี เพราะการแก้ไข รธน. ของ สสร. หากมีผลประโยชน์ทับซ้อน เกรงว่าจะมีการรับจ๊อบ
นายสามารถ แก้วมีชัย ประธาน กมธ. ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่กำหนดคุณสมบัติด้านการศึกษาวุฒิปริญญาตรี เพราะต้องการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีประสบการณ์การทำงาน และมีความเชี่ยวชาญมาทำหน้าที่ เพราะเห็นว่าหากไม่จบปริญญาตรี แต่ประชาชนเห็นด้วยในฐานะเป็นผู้ที่มีปัญญาท้องถิ่น ทาง กมธ. เห็นว่าควรเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตเข้ามามีโอกาสทำหน้าที่ได้ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกำหนดว่า สสร. ต้องจบปริญญาตรี มิเช่นนั้นจะเป็นการจำกัดสิทธิ และอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ ส่วนที่กำหนดคุณสมบัติด้านวัยวุฒิที่เหมาะสมแล้ว คือต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่ กมธ. ต้องบัญญัติไว้อายุของผู้สมัคร ส.ส.ร. ต้อง 35 ปี เพราะเป็นวัยกำลังเหมาะผ่านร้อนผ่านหนาว ส่วนภูมิลำเนาได้ยกเอา รธน.ของปัจจุบันมาใช้ ต้องเกิดจังหวัด รับราชการ และอยู่ในจังหวัดนั้นไม่เกินกว่า 5 ปีหรือเรียนหนังสือให้ยึดถือทะเบียนบ้านจังหวัด
จากนั้นเวลา 14.10 น. นายสมศักดิ์ ได้ปิดการอภิปรายเพื่อขอมติจากที่ประชุม ลงคะแนนเพื่อพิจารณา มาตรา 291/2 โดยมีสมาชิกเข้าร่วมประชุม 470 คน เห็นด้วย 340 เสียง ไม่เห็นด้วย 124 เสียง และงดออกเสียง 5
