"สกลธี" หยัน ''ทักษิณ'' ไม่มีใครห้ามกลับไทย เตือนอย่าดูถูกประชาชน อาจซ้ำรอยปี 49 แนะอดีตนายกฯ ลด ละ เลิก เพื่อแสดงความกตัญญูต่อประเทศ ลั่นปรองดองจริงต้องทำ 5 ข้อก่อน...
วันที่ 16 เมษายน นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยต่อคนเสื้อแดงที่ประเทศกัมพูชาและตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่า แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่มีความสำนึกผิดใดๆ และยังกล่าวโทษคนอื่นตลอดเวลาถึงชะตากรรมที่ตนเองต้องประสบอยู่ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้อนวอนขอความเห็นใจที่ไม่สามารถกลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดได้ ต้องอยู่รอบๆ ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องที่สร้างความสับสนมึนงงให้กับคนไทยทั้งประเทศ เพราะถ้าเป็นคนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง ก็จะทราบดีว่า ไม่มีใครหรือกลุ่มบุคคลใดห้ามมิให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับเข้าประเทศไทย แต่กลับเป็นตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เอง ที่ไม่กล้าเดินทางเข้ามา เพราะกลัวว่าจะต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และยังมีคดีความอีกมากมายเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่รอ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ หากเดินทางกลับเข้าประเทศไทย จึงต้องหาทางจุดประเด็นเรื่องปรองดองผ่านทางพรรคเพื่อไทยที่เป็นนอมินี เพื่อออกกฎหมายนิรโทษกรรมลบล้างผิดให้กลับเข้าประเทศมาได้อย่างเท่ๆตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศไว้ ว่าจะกลับมาให้ได้ภายในปีนี้
นายสกลธี กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองและไม่มีความยุติธรรมเกี่ยวกับเรื่องคดีความที่ถูกศาลตัดสินพิพากษาให้จำคุก จึงอยากตั้งคำถามไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ถึงแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะอ้างว่า คตส. ประกอบไปด้วยบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง แต่ท้ายที่สุดศาลฎีกาก็ต้องตัดสินคดีความบนพื้นฐานของหลักฐานที่มีและตัวบทกฎหมาย ถ้าพยานหลักฐานไม่แน่นหนาจริง และไม่มีการกระทำผิดจริง ศาลท่านจะพิพากษาตัดสินว่าผิดได้อย่างไร ดังนั้น การออกมาตีโพยตีพายก็เป็นเพียงเพราะคำพิพากษาออกมาไม่ถูกใจก็เท่านั้น อีกทั้งการเชื่อมโยงการปรองดองเพื่อล้างผิดของตนเองกับปีมหามงคลนั้นก็มิบังควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะให้ลูกน้องพรรคเพื่อไทย เร่งผลักดันการนิรโทษกรรมให้กลับบ้านเร็วขึ้นนั้น ก็เป็นเรื่องความต้องการส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณเอง อย่าดึงเอาเรื่องสถาบันที่คนไทยเคารพและเทิดทูนมาปะปน เพราะมันไม่เหมาะสม และไม่มีเหตุอันควรใดๆ ที่จะยกมาให้เกี่ยวข้องกัน อยากเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า อย่าย่ามใจคิดว่า น้องสาวเป็นนายกรัฐมนตรีคุมรัฐบาลได้ และมีเสียง ส.ส. ในมือเกินครึ่งของสภา แล้วจะทำอะไร ปู้ยี่ปู้ยำประเทศโดยไม่เกรงใจพี่น้องประชาชนคนไทยได้ การออกมาประกาศจะกลับประเทศภายในปีนี้ก็ดี ออกโชว์ตัววนเวียนแสดงพลังอยู่รอบประเทศเพื่อนบ้านก็ดี การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองและพวกพ้อง รวมถึงเร่งนิรโทษกรรมเพื่อล้างผิดให้ตนเอง ล้วนแล้วแต่จะเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในประเทศทั้งสิ้น อย่าลืมว่าเมื่อปี 2549 ใครจะไปนึกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทย ที่กุมอำนาจเกือบทั้งหมดของประเทศจะพบจุดจบได้ หนังม้วนเดิมก็อาจจะกลับมาฉายซ้ำอีกก็ได้ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่กตัญญูจริงตามอย่างที่ได้ปราศรัยไว้ ก็ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กตัญญูต่อแผ่นดินเกิด รู้จัก ลด ละ เลิก บ้านเมืองก็จะปรองดองได้อย่างแท้จริง
นายสกลธีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สงสารน้องสาวจริงๆ การที่ท่านอ้างว่ามีคนเคลื่อนไหว อยากให้หยุด ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำงานลำบาก ก็เห็นจะมีแต่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นที่ เคลื่อนไหว ประชาสัมพันธ์ตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนบดบังความสง่างามและตอกย้ำการไร้ภาวะผู้นำของน้องสาวตัวเอง จนไม่รู้ว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรีกันแน่ และเพื่อให้บ้านเมืองปรองดองและเดินไปได้อย่างแท้จริง ขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย 5 ข้อดังนี้
1. ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับคำพิพากษาของศาลฎีกาและเลิกการกล่าวโจมตีกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
2. พรรคเพื่อไทยต้องเลิกทำตัวเป็นเผด็จการรัฐสภา ใช้เสียงข้างมากลากไปอย่างเร่งรีบ ลุกลี้ลุกลนทั้งในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ที่ทำให้ประชาชนและสังคมต้องกังวลกับปมความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น
3. ต้องเลิกแบ่งแยกประชาชนและปลุกระดมคนเสื้อแดงรวมถึงการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อหวังผลอะไรก็แล้วแต่ โดยต้องทำให้ประเทศไทยมีเพียงสีเดียว ไม่แตกแยก
4. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องแสดงภาวะผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ มิใช่ในฐานะน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ปากอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่ปล่อยให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเดินเครื่องช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเต็มที่ ต้องเอาประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งก่อน
5. สำคัญที่สุด คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเลิกอาฆาตพยาบาทผูกใจเจ็บ และหยุดทำให้ประเทศแตกแยกเสียที
