น้องชาย "ชวน" เดือด ! โต้ถูกใส่ร้าย

โพสท์ทูเดย์ 20 เมษายน 2555 >>>




น้องชาย นายชวน หลีกภัย เดือด เปิดบ้านแถลงข่าวหลังจากถูกกล่าวหาช่วยผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครตรัง

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่บ้านเลขที่ 183 ถ.วิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย นายระลึก หลีกภัย น้องชายของ นายชวน ได้เปิดบ้านพักเพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากที่มีใบปลิวเกลื่อนเมือง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครตรัง และสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครตรัง ในวันที่ 22 เมษายนนี้ ซึ่งช่วงเป็นโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง โดยมีผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรี 2 คน คือ นายอภิชิต วิโนทัย หรือ "ทนายแจ๊ค" และ นายชาลี กางอิ่ม อดีตนายกเทศมนตรี 4 สมัย ซึ่งขณะนี้ทั้งคู่มีคะแนนที่สูสีกันมากนั้น
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนครั้งนี้ ได้มี นายพรศักดิ์ จริงจิตร ประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จังหวัดตรัง พร้อมกับคณะกรรมการสาขาพรรคมาร่วมรับฟังด้วย โดยมีมติว่าจะติดตามรับฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของพรรคมากน้อยแค่ไหน เพราะทางพรรคประชาธิปัตย์เอง ไม่ได้ส่งผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครตรัง หรือผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครตรัง เพียงแต่ในการปราศรัยทุกครั้ง จะมีผู้สมัครอ้างชื่อของ นายชวน หลีกภัย หรือมีการอ้างถึงความใกล้ชิดกับ นายชวน หลีกภัย พร้อมทั้งยังมีการอ้างถึง นายระลึก หลีกภัย ด้วยว่า ขณะนี้กำลังเป็นนายกเทศมนตรีนครตรังเงา แล้วด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการทำใบปลิวออกแจกจ่าย เพื่อโจมตีทีม นายอภิชิต หรือ "ทนายแจ๊ค" โดยระบุว่า นายระลึก หลีกภัย ผู้ลี้ภัยต่างแดน 10 ปี เป็นคนอยู่เบื้องหลังการเลือกตั้งเทศบาลนครตรัง  และยังสนับสนุนให้มีการค้าไม้เถื่อนจนร่ำรวย ขณะเดียวกัน นายระลึก ยังเป็นคนที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ แปดเปื้อน ตกต่ำ ถึงขนาด นายชวน และ นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง ในฐานะพี่ชายคนโตของครอบครัว ต้องน้ำตาตกมาแล้ว พร้อมยังกล่าวตำหนิไปยัง นายวิเชียร คันฉ่อง อดีต ส.ส.ตรัง 7 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งปัจจุบัน เป็น สว.ตรัง ด้วยว่า ต้องมาเสียรางวัด ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
ทั้งนี้ นายระลึก หลีกภัย ได้แถลงตอบโต้ว่า คนที่อ้างว่าเป็นกลุ่มคนประชาธิปัตย์รักการเมืองสะอาดนั้น  ตนมั่นใจว่าไม่ใช่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์จริง แต่เป็นพวกอีแอบ ที่หากินกับชื่อเสียงพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เชียร์ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน