สมชาย วงศ์สวัสดิ์: "ทักษิณ" ไม่เคยทำผิด วันสงบศึก ขอเอา "อดีตนายกฯ" ออกจากคุก

มติชน 17 เมษายน 2555 >>>




พอปฏิวัติแล้วก็ยังตามราวีกันไม่จบ ใหม่ๆ ประชาชนอาจจะไม่มีข้อมูล แต่ขณะนี้ข้ออ้างบางข้อ เช่น มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ก็เห็นแล้วว่ามันไม่มี นี่ออกไป 5 ปี ก็ไม่เห็นมีอะไรที่เอาผิดได้ เพราะไม่ผิด
แต่ท่านก็เหมือนติดคุกไปแล้ว โดยคนไม่หวังดี คนที่กลัวสู้ไม่ได้ เพราะรู้ว่าถ้าใช้ระบบปกติแล้วสู้ไม่ได้ ก็เลยต้องใช้กระบวนการพิเศษ
ในขณะที่ "พี่ชาย" เข้ามาประชิดชายแดนไทยด้านอีสาน-ตะวันออก ใช้ประเทศ "ลาว-กัมพูชา" เคลื่อนไหวใหญ่ทางการเมือง ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน
ส่วน "น้องสาว" ได้ตระเวนทำบุญตามวัดต่างๆ ในจังหวัด "เชียงใหม่-ลำพูน" ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 13-14 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีคนตรงกลาง นาม
เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ร่วมทริป
เป็น "เยาวภา" หรือ "เจ๊แดง" อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ผู้เป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่
23 พี่สาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
คนปัจจุบัน และภริยา สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 26
แม้รอบกาย "สตรีที่เกี่ยวเนื่องกับ 3
นายกฯ" จะมีทั้งรัฐมนตรีสายเหนือ ส.ส.กลุ่มวังบัวบาน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น รวมถึงข้าราชการในพื้นที่ห้อมล้อมอยู่ตลอดเวลา
ทว่า "เยาวภา" กลับพูดถึงอนาคตของตัวเองก่อนวันปลดปล่อยสมาชิก "บ้านเลขที่ 111" ในอีก 1 เดือนข้างหน้าว่า "คุณแดงจะไม่เล่นการเมืองแล้ว"
สำทับด้วยคำพูดหนักแน่นจาก "สมชาย" ขณะปลีกตัวมาร่วมสนทนากับ "มติชน" แบบสั้นๆ ระหว่างเปิดบ้านพักภายในสนามกอล์ฟกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เลี้ยงรับขวัญ "ยิ่งลักษณ์และคณะ"
"สมชาย" เชื่อว่าภริยาจะไม่เล่นการเมือง เพราะไม่มีใจรักเหมือนเดิม กอปรกับแต่ก่อน "เยาวภา" เป็นพยาบาลมาก่อน พื้นฐานคือไม่ใช่คนชอบการเมืองมาก่อน แต่ที่มาทำงานการเมืองเพราะต้องการเข้ามาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เลยตกกระไดพลอยโจนได้เป็น ส.ส.
   "ยิ่งปัจจุบันการเมืองมีแต่ปัญหา ถามว่าเราสู้ไหม เราสู้นะ แต่คนในบ้านเมืองมันไม่สู้กันด้วยกติกา" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย
ก่อนยอมรับว่าในช่วงที่ถูกบังคับให้ "เว้นวรรคการเมือง" 5 ปีของ "เยาวภา" และ 3 ปี 4 เดือนที่ผ่านมาของ "สมชาย" และยังไม่ครบกำหนดโทษ เป็นห้วงที่อยู่ในภาวะที่ "แสนสาหัสมาก" ของครอบครัว เพราะต้องตกอยู่ในสถานะ "ผู้ถูกกระทำ" เกือบตลอด
   "การเมืองบ้านเรา คนต้องการอำนาจพยายามทำลายล้างคนอื่นตลอด พูดไปก็เหมือนกับเข้าข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ แม้ผมจะไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็รู้สึกว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมในหลายเรื่อง เราบอกว่าบ้านเมืองเราเป็นประชาธิปไตย แต่หลังปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันเลวร้ายมาก
   "พอปฏิวัติแล้วก็ยังตามราวีกันไม่จบ ใหม่ๆ ประชาชนอาจจะไม่มีข้อมูล แต่ขณะนี้ข้ออ้างบางข้อ เช่น มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ก็เห็นแล้วว่ามันไม่มี มันเป็นเรื่องการเซ็นชื่อให้ภริยา (คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ) ซื้อที่ดิน ไม่ใช่เรื่องทุจริต นี่ออกไป 5 ปี ก็ไม่เห็นมีอะไรที่เอาผิดได้ เพราะไม่ผิด แต่ท่านก็เหมือนติดคุกไปแล้ว โดยคนไม่หวังดี คนที่กลัวสู้ไม่ได้ เพราะรู้ว่าถ้าใช้ระบบปกติแล้วสู้ไม่ได้ ก็เลยต้องใช้กระบวนการพิเศษ"
แม้ "น้องเขย" จะการันตีความบริสุทธิ์ให้ "พี่ใหญ่ชินวัตร" ทว่าโทษจำคุก 2 ปีที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ยังไม่ถูกลงอาญา ทำให้หลายฝ่ายข้องใจกับการ "เปิดเกมรื้อรัฐธรรมนูญ-เร่งกลไกสร้างความปรองดอง" ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) เคลื่อนกันเป็นขบวนว่ามี "วาระซ่อนเร้น" หรือไม่
"สมชาย" ยืนยันว่า เท่าที่รับฟังความเห็นจากเพื่อนๆ ใน พท. ต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยจริงๆ มีความปรองดองอย่างแท้จริง ไม่ได้คิดจะทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง
หากแรงต้านหนักหน่วง รุนแรง และไม่ลดละ แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับบ้านแบบเท่ๆ ได้อย่างไร ?
   "จะเท่หรือไม่เท่ ก็ว่ากันไป แต่ทั้งหมดต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายของบ้านเมือง ผมไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำอะไรที่ผิดกฎหมายบ้านเมือง ที่ผ่านมาผมยังไม่เห็นว่าท่านทำผิด"
ถึงวันนี้นอกจากสถานะ "ผู้หนีคดี" ที่ศาลตัดสินแล้ว ปัญหาใหญ่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือเรื่องความสัมพันธ์กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
"สมชาย" ปฏิเสธทันควันว่า "ไม่จริง ผมเห็นท่านเคารพ พล.อ.เปรม มาโดยตลอด เคยมีไหมที่ท่านจะพูดจาละลาบละล้วง ผมไม่เห็นว่าท่านเคยทำแบบนั้น ในฐานะคนใกล้ชิดขอยืนยันแทนเลยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยมีความรู้สึกไม่ดีกับ พล.อ.เปรม"
แล้วที่พูดเรื่อง "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ล่ะ ?
   "นั่นมันเป็นเวลาปราศรัย พอพูดมา คนก็พยายามไปเชื่อมโยงว่าเป็นคนนั้นคนนี้"
เมื่อแย้งว่ากลุ่มคนที่พยายามเชื่อมโยงคนแรกๆ ล้วนเป็นพรรค-พวกเดียวกัน อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-จตุพร พรหมพันธุ์ ก็เคยพูดบนเวทีคนเสื้อแดงว่าคู่ขัดแย้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ และระบอบประชาธิปไตยคือ "หัวหน้าอำมาตย์" ที่ชื่อ "พล.อ.เปรม"
เขาโต้กลับว่า "ก็นี่ไง ไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนพูด แต่คนเห็นว่าเป็นพวกเดียวกัน พรรคเดียวกัน แต่มันไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นอย่าเอาคำพูดของคนอื่นไปใส่ให้ท่าน"
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอด 5 ปีที่มีการประกาศสงครามไพร่-อำมาตย์ และมีชื่อ "พล.อ.เปรม" เข้าไปพัวพัน สังคมคงสงสัยไม่ได้ว่าร่องรอยความขัดแย้งหายไปตอนไหน
"สมชาย" ย้ำคำเดิมว่า "5 ปีมานี้ไม่มีอะไรเลย ไม่เคยมีสักคำที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าไม่เคารพ พล.อ.เปรม เท่าที่ผมได้พูดคุยกับท่าน ท่านเคารพ พล.อ.เปรมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"
ไม่ว่าชุดคำอธิบายใหม่จะเป็นอย่างไร แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาคือคนในตระกูล "ชินวัตร" รับรู้ปัญหาอันเกี่ยวเนื่องกับ "ป๋า" จึงพยายามเคลื่อนเข้าหาคน "บ้านสี่เสาเทเวศร์" หลายกรรม หลายวาระ
สะท้อนผ่านกรณี "คุณหญิงพจมาน" ที่ได้เข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2551
รวมถึงกรณี "ยิ่งลักษณ์" ออกมาส่งสัญญาณตั้งแต่วันแรกๆ ที่ขึ้นแท่นประมุขฝ่ายบริหารว่า "จะขอเข้าไปกราบป๋า"
   "นายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็ได้เจอแล้วนี่ ซึ่งเท่าที่ฟังจากนายกฯ เล่า พล.อ.เปรม ท่านก็ให้ความเคารพ พูดจาปราศรัยด้วยอัธยาศัยอันดี ก็ถือว่ามีความเมตตาพอสมควรแล้ว เพราะท่านไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง"
ถึงวันนี้ไม่มีใครรู้ว่าความหวังในการ
กลับบ้านเกิดในอีก 3-4 เดือนข้างหน้าของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" จะเป็นจริงหรือไม่ แต่ในทรรศนะของ "สมชาย" ยืนยันว่าการส่งสัญญาณข้ามแดนของ "ผู้นำพเนจร" ไม่ใช่เรื่องผิด และไร้นัยยะต่างๆ เข้ามาแอบแฝง
แต่สิ่งที่เขายืนยันแทนได้อย่างแน่นอนคือคนชื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ไม่เคยคิดทำร้ายบ้านเมือง !!!