ปรองดองทั้งแผ่นดินกลืนกินขบวนการแดง

โพสท์ทูเดย์ 27 เมษายน 2555 >>>




เจ็บเข้าขั้วหัวใจกับฉายาที่แกนนำแดงด้วยกันมอบให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ “ปูลูกป๋า” และภาพบาดใจวานนี้ที่นายกฯ เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เพื่อหารือถึงการสร้างความปรองดอง
ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์แห่งนี้ฮือไปด้วยคนเสื้อแดง ที่แกนนำ นปก. นำมวลชนมาขับไล่ พล.อ.เปรม จนเกิดจลาจลย่อยๆ
กลับมาวันนี้การเมืองเปลี่ยนมือ เมื่อฝ่ายแพ้กลับมาชนะ ต้องประนีประนอมผลประโยชน์เพื่อรักษาอำนาจ ก็พลิกจุดยืนได้
คนเสื้อแดงผิดหวังอย่างรุนแรงกับภาพการเกี้ยเซี้ยระหว่างพรรคเพื่อไทยที่ทอดสะพานเข้าหา พล.อ.เปรม ทั้งที่เคยเป็นปฏิปักษ์กันมา เพราะกว่าจะกลับมาชนะเป็นรัฐบาลได้ ก็จากพลังของคนเสื้อแดง โดยเฉพาะต้นทุนจาก “ศพพี่น้องคนเสื้อแดง” ที่ล้มตายจากการต่อสู้กับรัฐบาลอำมาตย์
ช่วงนั้นแกนนำ นปช. ปลุกสงคราม “ไพร่-อำมาตย์” ขยายความขัดแย้งเพื่อล้มขบวนนอกระบบรัฐธรรมนูญ โดยกดดันให้ พล.อ.เปรม ที่เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของระบอบอำมาตย์และอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลทักษิณ ลาออกจากประธานองคมนตรี มีการชุมนุมม็อบเสื้อแดง 2 ครั้ง คือ สงกรานต์เลือด 2552 และ “มี.ค.เม.ย. 2553”
การทำลายความน่าเชื่อถือ พล.อ.เปรม ได้กระทำต่อเนื่องหลายเหตุการณ์ ทั้งการชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์
แกนนำ นปช. นำโดย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังปลุกคนเสื้อแดงตรวจสอบ พล.อ.เปรม เรื่องการเสียภาษีย้อนหลัง การสนับสนุนเครือข่าย ธนาคาร กลุ่มทุน บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาสอยดาว จ.จันทบุรี และไปชุมนุมซักฟอก พล.อ.เปรม หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ถนนสีลม ที่ พล.อ.เปรม เคยเป็นประธานคณะที่ปรึกษาอยู่ รวมถึงการโจมตีบุคลิก ภาพลักษณ์ ของ พล.อ.เปรม อย่างรุนแรง
เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ทุกอย่างกลับตาลปัตรสิ้นเชิง ด้วยเหตุผลต้องการ “ปรองดอง” เพื่อให้ประเทศเดินได้ มีเป้าหมายสุดท้าย คือ การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อปลดล็อกทุกคดีนับแต่รัฐประหาร 2549 โดยเฉพาะคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไทยดังที่เจ้าตัววาดฝัน
ถึงแม้แกนนำ นปช. ที่ด้านหนึ่งพลิกบทบาทมาเป็นรัฐบาล ให้เหตุผลที่ต้องปรองดองเพื่อประเทศชาติสงบสุข พร้อมกลับลำยกย่อง พล.อ.เปรม เป็นผู้ปกป้องชาติ เป็นแบบอย่างที่น่าเคารพนับถือ แต่คนเสื้อแดงส่งเสียงรับไม่ได้ที่ต้องไปเอาใจ “ป๋าเปรม” เพื่อสร้างภาพจูบปาก “หัวขบวน” ของสองฝ่าย
ผลการเข้าพบ พล.อ.เปรม ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ครั้งนี้ ก็หวังใช้ภาพ “ผู้มีบารมี” เพื่อลดกระแสจากเครือข่าย “ลูกป๋า” ที่ยังคงต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ
การกำหนดเกมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สั่งแกนนำ นปช. เล่นเกมปรองดอง ได้สร้างความผิดหวังต่อกลุ่มแดงอิสระที่ไม่พอใจแดง นปช. เพียงเพราะต้องการเกี้ยเซี้ยประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จนลืมจุดยืนที่ต้องหาฆ่าคนเสื้อแดงมาลงโทษก่อนจะออก พ.ร.บ.ปรองดอง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ลัดขั้นตอนการค้นหาความจริง เพียงเพราะอยากกลับไทยในปีนี้
แกนนำ นปช. รายหนึ่ง ระบุว่า พรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดงได้เปรียบทุกประตู ฝ่ายอำมาตย์พ่ายแพ้เสียงประชาชนแล้ว โดยหลักการผู้ที่ชนะต้องให้ผู้แพ้เข้าสู่กระบวนการ แต่วันนี้คนที่ชนะกลับคุกเข่าไปหาคนแพ้ และยอมกลับมาอยู่ในกระบวนการของอำมาตย์อีก ซึ่งไม่ถูกต้อง
กลุ่มแดงอิสระถึงแม้มีไม่มากในขบวนการเสื้อแดง เมื่อเทียบกับแดง นปช. หรือแดงทักษิณ แต่ก็เป็นพลังก้าวหน้าสำคัญของฝ่ายแดง และมีเสียงดังในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ที่ผ่านมาแดงกลุ่มนี้วิพากษ์แดงนปช.ที่ละเลยจุดยืน โดยเฉพาะคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เรียกร้องให้ พะเยาว์ อัคฮาด มารดา กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด อาสาพยาบาลที่เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนารามเสียสละ เลิกถามหาใครฆ่าลูกสาว ประเทศถึงจะเดินหน้าได้
ทั้งที่แกนนำ นปช. ใช้กรณี “น้องเกด” เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนตรวจสอบ “กองทัพอภิสิทธิ์สุเทพ” ว่าใช้ความรุนแรงกับคนเสื้อแดง แต่เมื่อทักษิณกดปุ่มเปลี่ยนโทน ทำให้ปัจจุบันครอบครัวอัคฮาดต้องกลายเป็นแนวร่วมล้มโต๊ะการปรองดอง เพราะไม่เห็นด้วยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งยังถูกโดดเดี่ยวจากแดง นปช.
เกมปรองดองที่ทักษิณต่อรองกับชนชั้นนำ พยายามทำให้เห็นว่า จะปกป้องสถาบัน ไม่แก้มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา และจะไม่โค่นล้ม พล.อ.เปรม แลกกับยอมทิ้งมวลชน “แดงอิสระ” ออกจากขบวน
เพราะประเมินแล้วว่า แดงส่วนใหญ่ยังขึ้นตรงกับพรรคเพื่อไทยและ นปช. จึงสามารถทิ้งกลุ่มแดงอิสระได้ เนื่องจากได้เคลียร์ค่าเสียชีวิตให้แล้วรายละ 7.75 ล้านบาท การเคลื่อนไหวไม่จำเป็นต้องใช้แดงกลุ่มนี้แล้ว เพราะเป้าหมายปัจจุบันไม่ได้รบแตกหัก แต่ต้องการอยู่ร่วมกับชนชั้นนำ แลกเปลี่ยนกับการได้นิรโทษกรรมกลับไทย
อีกทั้งฝ่ายทักษิณเห็นว่า “แดงอิสระชายขอบ” หรือ “แดง 112” เป็นอุปสรรคต่อตัวทักษิณที่จะเดินทางกลับไทย เพราะแดงกลุ่มนี้มีจุดยืนให้เอาคนฆ่าประชาชนมาลงโทษ ซึ่งจะกระทบกับกองทัพ นอกจากนี้ชาวแดงอิสระยังเป็นเป็นเสรีชนที่เรียกร้องให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยชูการแก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
แผนของปีกทักษิณเข้าทำนอง “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” ชิงปิดบัญชีก่อนที่จะถูก “แดง 112” มาล้มก่อนด้วยทฤษฎี ยืมมือนายทุนล้มชนชั้นนำ แล้วค่อยมาล้มนายทุนภายหลัง
สรุปได้ว่า ปมที่แดงอิสระเห็นว่าแดง นปช.เปลี่ยนสีจนรับไม่ได้
1. ปรองดองกับชนชั้นนำ ที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร และเป็นฝ่ายตรงข้าม
2. การไม่จริงใจค้นหาความจริง ใครอยู่เบื้องหลังการเข่นฆ่าประชาชน 91 ศพ ทั้งที่ก่อนหน้ากระตือรือร้นถึงขั้นจะส่งฟ้องศาลโลก
3. ไม่แก้มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญาทั้งที่เคยร่วมเคลื่อนไหวด้วยกัน
4. ติดอยู่กับผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และตำแหน่งทางการเมืองที่ได้รับทั้งเก้าอี้รัฐมนตรี สส. และที่ “ปรึกษาเลขา” รัฐมนตรี
5. ปล่อยให้พี่น้องคนเสื้อแดงรากหญ้ายังติดคุกอยู่ ละทิ้งมวลชน ไม่ทำตามสัญญา และใช้คำพูดหักหาญน้ำใจว่า “ใครขวางการปรองดอง ช่างแม่มัน”
การเดินหน้าปรองดองของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ จะยิ่งบั่นทอนความเข้มแข็งของขบวนการเสื้อแดงที่เคยยิ่งใหญ่ แต่ “แดงอิสระ” ยังไม่กล้าแตกหักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และแดง นปช. เสียทีเดียว เพราะยังมีจุดยึดโยงเดียวกัน คือ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงยังไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าพรรคเพื่อไทย
ต้องจับตา ในอนาคตหากแดงยังเปิดศึกกับแดงเข้มข้นต่อเนื่อง ย่อมไม่เป็นผลดีกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยแน่