โดย ก่อแก้ว พิกุลทอง ....

ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา คนไทยเสื้อแดงจำนวนมากได้เดินทางไปเมืองเสียมเรียบ (Siem Reap) ผ่านยานพาหนะทุกรูปแบบ ทั้งเครื่องบิน รถเก๋งส่วนตัว รถตู้ รถปิคอัพ และรถบัสเช่าเหมาคันเพื่อไปร่วมงานเสื้อแดง ณ ลานศูนย์วัฒนธรรมเสียมเรียบ
คนเสื้อแดงเกือบสี่หมื่นคน (ตัวเลขจากทางการกัมพูชา) มารวมตัวกัน ณ.ประเทศกัมพูชา เพื่อพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีขวัญใจของคนไทย มาด้วยความคิดถึง มาด้วยความรัก ความศรัทธา และความสงสาร อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับบ้านเร็ววันเพื่อไปอยู่กับครอบครัวที่ต้องแยกกันอยู่เกือบ 6 ปี และช่วยพัฒนาประเทศ ด้วยศักยภาพที่ท่านมีอย่างเต็มเปี่ยม
คนเสื้อแดงต้องจ่ายเงินคนละ 5,000 บ้าง 7,000 บ้าง มากับกรุ๊ปทัวร์ที่จัดโปรแกรมเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ส่วนคนที่ไม่มีเงินจ่ายค่าทัวร์ก็ลงขันกันมา 1,000 บาท, 2,000 บาทหรือ 3,000 บาท แล้วมากินแบบประหยัด เอาเต้นท์มากางนอนเองก็มีมาก ทั้งหมดทั้งปวง ก็เพื่อมาให้กำลังใจต่อบุคคลที่คนเสื้อแดงรักและศรัทธา ถ้าใครยังคิดว่าคนเสื้อแดงถูกจ้างให้ไปชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มาเห็นปรากฏการณ์แบบนี้แล้วยังคิดแบบเดิมๆว่าคนเสื้อแดงถูกจ้างมา ผมคิดได้มิติเดียวว่า คนที่คิดแบบนั้นเป็นคนปัญญาอ่อนมากๆ
คนเสื้อแดงได้เจอ พ.ต.ท.ทักษิณ ในหลายๆจุดไม่ว่า ณ โรงแรมที่พัก ณ เวทีปราศรัย หรือไปทำบุญตักบาตรด้วยกันที่นครวัด ได้จับไม้จับมือ โอบกอดให้กำลังใจ ได้ถ่ายรูป ได้สื่อสารความรู้สึกระหว่างกันมากมาย ถึงแม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมวลชนมีจำนวนมาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีเวลาพอในการพูดคุยกับทุกๆคนได้แบบใกล้ชิด อีกทั้งเรื่องความปลอดภัยที่ทางกัมพูชาเข้มงวดเป็นพิเศษ สำหรับคนที่เข้าไม่ถึงตัว อย่างน้อยก็ได้เห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ในระยะไม่ไกล ท่านเองก็พยายามเข้าหาพี่น้องเสื้อแดงตามสภาพที่พอเป็นไปได้
การได้พบกับพี่น้องเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมากถึงต่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ถึงแม้จะร้อนและเหนื่อยมากแต่ท่านก็ดูมีความสุขตลอดเวลาที่อยู่ที่เสียมเรียบ และคงมีความอิ่มเอิบใจ มีกำลังใจต่อสู้กับความทุกข์ใจที่ต้องห่างบ้านมานาน และยังไม่มั่นใจว่าเมื่อไหร่กันแน่จะได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนจริงๆ
นอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีความสุขแล้วคนเสื้อแดงก็มีความสุขใจเช่นเดียวกัน ที่ได้แสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กันแบบใกล้ชิด ไม่ต้องผ่านการสื่อสารระยะไกลเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้คนเสื้อแดงได้สร้างปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เป็นประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่ง ขจรขจายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกคือการรวมตัวทางการเมืองนอกประเทศครั้งใหญ่ที่สุด ด้วยมวลชนเกือบสี่หมื่นคน ไม่เคยมีกลุ่มการเมืองใดสามารถทำแบบนี้ได้มาก่อนต้องขอบอกว่าเสื้อแดงแน่จริงๆ
มีคนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่า ทำไม กัมพูชาถึงเปิดประเทศและอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมของคนเสื้อแดงและพ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้อย่างเต็มที่ ผมเองต้องขอกราบขอบพระคุณ ชื่นชมในมิตรภาพ ความกล้าหาญและวิสัยทัศน์ของท่านสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา มา ณที่นี้ด้วยครับ
ท่านสมเด็จ ฮุน เซน มีความผูกพันธ์ รักใคร่และคบหากับ พ.ต.ท.ทักษิณ มานานนับสิบปี ท่านชื่นชม พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างมาก ตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรีของไทย พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพัฒนาประเทศและดึงประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาด้วยกัน ส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกัน กัมพูชา ลาว พม่า และมาเลเซีย ต่างซาบซึ้งในสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามทำเป็นอย่างดี แม้กระทั่งถูกยึดอำนาจต้องไปอยู่ต่างประเทศ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ช่วยเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาประเทศให้กับผู้นำหลายชาติรวมทั้งกัมพูชา สมเด็จ ฮุน เซน ซาบซึ้งในศักยภาพและความจริงใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดี ท่านจึงแสดงออกในลักษณะมิตรแท้ต่อกันไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
สมเด็จ ฮุน เซน เป็นนักรบผู้กล้าที่ได้จับอาวุธ ต่อสู้เพื่อประชาชนกัมพูชา ตั้งแต่อายุ 18 ปี ผ่านความยากลำบาก ผ่านทุกข์ความเจ็บปวดมากมาย ท่านรู้ซึ้งถึงความอยุติธรรมที่ประชาชนกัมพูชาเคยได้รับในอดีต เมื่อเห็นเพื่อนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านจึงแสดงความกล้าหาญในการยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ แสดงความเห็นใจต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากนี้ สมเด็จ ฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง มาจากประชาชน การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2551 พรรคประชาชนกัมพูชาของท่าน ชนะการเลือกตั้งเสียงข้างมาก ได้ ส.ส. ถึง 90 ที่นั่งจาก 123 ที่นั่ง ท่านเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มาจากประชาชน ชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมชั่วตามที่ฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาจริงๆ คงไม่ชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง ขนาดไม่อยู่ในประเทศก็ยังชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย ประชาชนไทยยังศรัทธาและเชื่อมั่นใน พ.ต.ท.ทักษิณ มากขนาดนี้ ท่านจะไม่เชื่อมั่นได้อย่างไร
ผลพลอยได้อีกอย่างที่ สมเด็จ ฮุน เซน เล็งเห็นการที่มีคนเสื้อแดงไปเมืองเสียมเรียบกันจำนวนมาก จะไปใช้จ่ายเงินจำนวนมาก คาดว่าการใช้จ่ายจากคนเสื้อแดงอย่างเดียวก็หลายร้อยล้านบาท ที่สำคัญกิจกรรมครั้งนี้มีนักข่าวไปทำข่าวจำนวนมาก ทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศ เป็นข่าวดังไปทั่วโลก จะช่วยประชาสัมพันธ์เมืองเสียมเรียบซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่งของกัมพูชาให้เป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้นไปทั่วทั้งโลกฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาใดๆเลย นับว่าเป็นวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศที่เยี่ยมยอดครับ
ส่วนกรณีมิติทางการทูตที่บางคนมองว่า การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงครั้งนี้ อาจทำให้ฝ่ายตรงข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ โกรธเคืองอย่างรุนแรงโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลในอนาคต อาจจะสร้างผลกะทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ ผมเชื่อว่านักการเมืองฝีมือระดับปรมาจารย์ที่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาแบบผูกขาดมาเกือบ 30 ปี อย่างสมเด็จ ฮุน เซน ท่านคงวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้วว่า การทำงานการเมืองเชิงทำลายของพรรคประชาธิปัตย์ คงยากที่จะเอาชนะใจคนไทยและคงยากที่จะชนะการเลือกตั้งไปอีกนานแสนนาน ท่านจึงไม่แคร์ครับ
ที่เล่ามาทั้งหมด เป็นเหตุผลที่ทำไมกิจกรรมการพบปะระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับพี่น้องเสื้อแดงครั้งนี้จึงได้รับการสนับสนุนจากกัมพูชาอย่างเต็มที่ครับ
