มติชน 15 เมษายน 2555 >>>
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังจากทำบุญตักบาตรพระ 265 รูป ที่นครวัด นครธม ประเทศกัมพูชาว่า อยากจะกลับประเทศไทย นานแล้ว แต่เหตุผลที่ยังไม่ยอมกลับเพราะบรรยากาศไม่ได้ แต่เชื่อว่าปีนี้ทุกอย่างจะเข้าที่ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ทำงานได้ดี สภาฯ ทำงานได้ ทั้งนี้ โอกาสในการสร้างความปรองดองนั้นมีสูงก็จะได้กลับประเทศไทยอีกครั้ง นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า ไม่กลัวหากจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ต้องเป็นกระบวนการที่ถูกต้องไม่ใช่เป็นกระบวนการที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กว่าวว่า เมื่อได้เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ก็จะไม่ไปกดดันการทำงานของรัฐบาลในเรื่องการสร้างความปรองดอง และจะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ อีก เพราะอายุมากแล้ว แต่จะคอยให้คำปรึกษาน้องสาวในการทำงานเท่านั้น ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรมที่มีหลายฝ่ายพูดถึงก็ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ย้ำว่าหากจะมีจริง ก็จะต้องยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่า มีการพูดคุยเรื่องการปฏิวัติอยู่จริง แต่การจะเกิดปฏิวัติอีกครั้งในประเทศไทยนั้นทำยาก เพราะปัจจุบันประชาชนมีความตื่นตัวเรื่องประชาธิปไตย อีกทั้งนานาชาติก็ไม่ยอมรับ รวมถึงพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้นำการปฏิวัติปี 2549 ก็ออกมายอมรับแล้วว่าไม่เกิดประโยชน์ ก่อนจะแนะนำให้พรรคประชาธิปัตย์ก้าวข้ามตัวเองให้ได้ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน และชื่นชมว่าที่ผ่านมาทำงานเป็นฝ่ายค้านที่เก่ง
เช่นเดียวกับการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ เห็นด้วยที่จะให้มีการเจรจาในระดับผู้ปฏิบัติการ เพราะว่าการแก้ปัญหาด้วยการพยายามตามไล่ล่าฆ่ากันให้ตายทั้งหมดหรือทำสงครามนั้นไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด เพราะทั้ง 2 ฝ่ายล้าแล้ว ควรที่จะยุติปัญหาต่างๆ ด้วยการเปิดโต๊ะเจรจากัน แต่ไม่เห็นด้วยในการตั้งนครรัฐขึ้นมาแก้ปัญหา
